สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า นางเรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย แถลงต่อสื่อมวลชนในกรุงวอชิงตัน ภายหลังเข้าพบหารือกับ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนของรัฐบาลสหรัฐ เมื่อวันพฤหัสบดี ว่า อินโดนีเซียต้องการให้สหรัฐมีความเกี่ยวพันในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น พร้อมกับแสดงความหวังว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลอินโดนีเซีย กับรัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะใกล้ชิดแนบแน่นยิ่งขึ้น

นางเรตโน กล่าวว่า ในฐานะประเทศประชาธิปไตย และประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่งกับอินโดนีเซีย จะช่วยเพิ่มคุณค่าเป็นอย่างมากแก่สหรัฐ ในความเกี่ยวพันในภูมิภาค

ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ สหรัฐ-อินโดนีเซีย ครอบคลุมการค้า การลงทุน ความมั่นคง และสาธารณสุข ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลสหรัฐประกาศจะบริจาคเงิน ช่วยเหลืออินโดนีเซียต่อสู้กับโควิด-19 อีกจำนวน 30 ล้านดอลลาร์ (993 ล้านบาท) เพื่อจัดซื้อออกซิเจนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และจะช่วยผลักดันการจัดสรรวัคซีนให้อินโดนีเซีย

อินโดนีเซียกำลังเผชิญกับการระบาดรุนแรงระลอกใหม่ของโควิด-19 ตั้งแต่เดือน ก.ค. ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดสูงขึ้นกว่า 3.5 ล้านคน และเสียชีวิตสะสมผ่านหลัก 100,000 รายแล้ว

สหรัฐพยายามกระชับความสัมพันธ์ กับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของจีน การเยือนวอชิงจันของนางเรตโน เกิดขึ้นขณะที่กองทัพของ 2 ประเทศ กำลังซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา ภายใต้รหัส การูดา ชีลด์ (Garuda Shield 2021) ระหว่างวันที่ 1 – 14 ส.ค. ที่เมืองอัมโบราวังและเมืองมากาลิซัง ของอินโดนีเซีย โดยมีทหารเข้าร่วมจากทั้ง 2 ฝ่ายกว่า 4,500 นาย

อินโดนีเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนด้วยเช่นกัน ในช่วงการระบาดของโควิด-19 อินโดนีเซียต้องพึ่งพาวัคซีนของจีนเป็นจำนวนมาก

พล.อ.แอนดิกา เปอร์กาซา ผู้บัญชาการทหารบกอินโดนีเซีย และ พล.อ.ชาร์ลส์ เอ. ฟลินน์ ผู้บัญชการกองทัพภาคแปซิฟิก กองทัพบกสหรัฐ แสดงความหวังในแถลงการณ์ร่วม เมื่อวันพุธ (4 ส.ค.) ว่า การซ้อมรบร่วมครั้งนี้ จะช่วยเสริมสมรรถนะกองทัพ และความสัมพันธ์ทวิภาคี
เครดิตภาพ – U.S. Embassy Jakarta, REUTERS
เครดิตคลิป – MILITARY LEAK