เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ร้านอาหารเพลิน ถนนวิภาวิดีรังสิต “แพม” สุภกมล วรรธนะดิษฐ์ และ “แพตตี้” สุภจิต วรรณนะดิษฐ์ สองพี่น้องนักกีฬาขี่ม้าดาวรุ่งของไทย ได้เปิดแถลงข่าวให้สัมภาษณ์พิเศษ เล่าประสบการณ์การแข่งขันรายการระดับโลก หลังจากทั้งคู่ได้แสดงฝึมือประเภทศิลปะบังคับม้า (เดรสซาจ) จนได้การยอมรับในวงการกีฬาขี่ม้านานาชาติ โดยมี อิมเก เชลเลเกนส์-บาร์เทล อดีตนักกีฬาขี่ม้าหญิงชาวเนเธอร์แลนด์ ดีกรีเหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ 2008 และแชมป์โลก 2010 เป็นผู้ฝึกสอน
สุภกมล พี่สาววัย 24 ปี อันดับ 366 ของโลก ตามแรงกิ้งสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ (เอฟอีไอ) เป็นนักกีฬาขี่ม้าคนแรกของไทย ที่ได้เข้าร่วมรายการระดับกรังด์ปรีซ์ สูงสุดของเอฟอีไอ ขณะที่ สุภจิต น้องสาววัย 21 ปี กำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตามรอยพี่สาว ซึ่งเข้าร่วมแข่งขันระดับปรีซ์ เซนต์ จอร์จ
“แพม” สุภกมล เผยว่า การแข่งขันในยุโรปที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์ดีมากที่ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ทั้งการทำงานร่วมกับโค้ช และการดูแลม้าทุกขั้นตอน รวมทั้งการซ้อมต่างๆ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือคนกับม้าต้องมีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เราต้องรัก ดูแล และเข้าใจเขาให้เป็นเหมือนเพื่อน
ขณะที่ “แพตตี้” สุภจิต กล่าวว่า นอกจากการดูแลม้าแล้ว ทุกครั้งที่ลงแข่งขันก็จะได้รับประสบการณ์ดีๆ มากมาย เพราะมีอุปสรรคต่างๆ ที่เราคาดไม่ถึงให้ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเสมอ แต่พอได้ลงสนามมากขึ้นก็ไม่กังวล และมีแต่ความมุ่งมั่นที่อยากจะทำให้ดีที่สุด
ทางด้าน นายสุภกิต วรรธนะดิษฐ์ คุณพ่อ กล่าวว่า ลูกสาวทั้ง 2 คน มีแผนแข่งขันระดับอินเตอร์อีก 2-3 รายการ ที่ยุโรป ทั้งฝรั่งเศส หรือ เยอรมนี ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ จากนั้นในปี 2023 สุภกมล จะแข่งระดับกรังด์ปรีซ์ เพื่อเก็บคะแนนสะสมลุ้นโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นงานหนัก เพราะจะต้องทำคะแนน 67 เปอร์เซ็นต์ อย่างน้อย 2 สนาม และจะต้องติดอันดับท็อป 2 ของโซนเอเชีย/โอเชียเนีย
ส่วน สุภจิต เตรียมแข่งขันควอลิฟายเพื่อเป็นตัวแทนทีมชาติไทย ในรุ่นปรีซ์ เซนต์ จอร์จ ลุ้นโควตานักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย เข้าร่วมศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ช่วงปลายปีหน้า ตามหลักเกณฑ์ของสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย จากนั้นจะยกระดับไปแข่งขันรุ่นอินเตอร์มีเดียต ที่ใหญ่ขึ้นต่อไป