หากพูดถึงสโมสรฟุตบอลจากต่างแดนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบ้านเราแล้วก็คงหนีไม่พ้น ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต่างเป็นอริกันมาช้านานกว่าหนึ่งศตวรรษอย่างแน่นอน โดยวันนี้ “โลกสีสวย” จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ 2 ผู้ประกาศสาวสวยอย่าง “ยุ้ย” ชไมพร เห็นประเสริฐ สาวกหงส์แดงตัวยง และ “โอปอล์” ณัฐชา เสนาบุตร เด็กผีแดงพันธุ์แท้ ที่ถูกโชคชะตา และหน้าที่การงานพัดพาให้กลายมาเป็นคู่ซี้ทั้งที่อยู่กันคนละขั้วในสงครามลูกหนังวันแดงเดือด

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร จะแดงเดือดเหมือนสงคราม เรด วอร์ หรือไม่ เชิญติดตามครับ

สวัสดีครับยุ้ย โอปอล์ ช่วยแนะนำตัวหน่อยจ้า

ยุ้ย: “สวัสดีค่ะ ยุ้ย-ชไมพร เห็นประเสริฐ ปัจจุบันเป็นพิธีกร และผู้ประกาศข่าวกีฬานะคะ ช่วงนี้ก็จะมีทั้งทาง ไทยพีบีเอส และที่ ทีสปอร์ต 7 รายการ เกาะสนามข่าวเช้า, มีเป็นดีเจที่ เอฟเอ็ม 99 และก็มีไลฟ์ทางแอพพลิเคชั่นค่ะ”

โอปอล์ : “โอปอล์-ณัฐชา เสนาบุตร นะคะ ตอนนี้เป็นทั้งพิธีกร และผู้ประกาศ รวมทั้งยังเป็นแคสเตอร์ทางอีสปอร์ตด้วย ติดตาม โอปอล์ ได้ทาง ทีสปอร์ต 7 รายการ เกาะสนามข่าวเช้า รวมทั้ง สปอร์ตวาไรตี้ ทางเอฟเอ็ม 99 ก็จัดด้วยกันกับยุ้ย ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. ค่ะ”

มารู้จักกันได้อย่างไร และเริ่มสนิทกันตอนไหนครับ

ยุ้ย: “ตอนที่เจอ โอปอล์ รู้สึกว่าเขาเป็นคนน่ารัก น่ารังแกดี ความสัมพันธ์ของเรามันเกิดจากการที่ โอปอล์ ชอบลืมของเป็นประจำ ชอบลืมกระเป๋าสตางค์แล้วก็ต้องยืมตังค์เราตลอด มันก็เป็นการสานสัมพันธ์อย่างหนึ่ง อีกอย่างพื้นฐานชีวิตเราก็เหมือนกันเป็นเด็กที่โตมาแบบบ้าน ๆ สู้ชีวิตด้วยกันทั้งคู่ ก็เลยสนิทกันค่ะ”

โอปอล์ : “เจอยุ้ยตอนเข้ามาแคสต์งานผู้ประกาศข่าว ตอนนั้นเรายังเป็นเด็ก AF 9 อยู่เลย ซึ่งตอนที่เห็น ยุ้ย ดูเป๊ะมาก มีออร่า ดูเก่งมาก ๆ แต่คุณยุ้ยก็เป็นกันเองมีเข้ามาทักทายน้อง ๆ บ้าง จากนั้นก็ได้ทำงานร่วมกันมาตลอด แต่ก็ไม่ค่อยรักกันแล้วค่ะ (หัวเราะ)”

ทั้ง 2 คนเริ่มดูฟุตบอลตั้งแต่เมื่อไรครับ

ยุ้ย: “ยุ้ย เริ่มดูฟุตบอลตั้งแต่จำความได้ค่ะ เพราะที่บ้านคุณพ่อ และคุณน้าดูฟุตบอลทั้งคู่ ซึ่งโดยธรรมชาติของผู้ชายเขาก็ดูหมดทั้งฟุตบอลทีมชาติ หรือ สโมสร ฟุตบอลซีเกมส์ เราก็เลยเริ่มดู และรู้สึกว่า มันสนุกน่าติดตาม”

โอปอล์ : “โอปอล์ เริ่มดูฟุตบอลตอนเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ แต่ก็จะมีเว้นไปช่วงหนึ่ง และกลับมาเริ่มต้นดูอย่างจริงจังอีกครั้งก็ตอนที่เข้ามาทำงานในวงการกีฬาอย่างเต็มตัว ตอนเรียนเราก็จะดูแบบผ่าน ๆ เฮ้ย แมนฯ ยูไนเต็ด แข่งก็ไปเชียร์ แต่พอเริ่มทำงานตรงนี้มันก็จะดูแบบมีแพสชั่นมากขึ้น รวมทั้งติดตามข่าวสารมากขึ้นทั้งของ แมนฯ ยูไนเต็ด และทีมอื่น ๆ ซึ่งก็ทำให้เรามีความรู้ด้านฟุตบอลมากขึ้นค่ะ”

เริ่มต้นเชียร์ ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่เมื่อไร

ยุ้ย: “ยุ้ยเริ่มเชียร์ ลิเวอร์พูล จริงจังตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งก็ซึมซับมาจากคุณพ่อ และคุณน้าที่เชียร์ ลิเวอร์พูล เหมือนกัน แถมช่วงนั้นก็เริ่มเข้ามาทำงานที่ ทรู สปอร์ต แล้วด้วย เราก็ต้องเริ่มติดตามแบบจริงจัง ซึ่งก็ทำให้รู้ลึกถึงเรื่องข่าวสารต่าง ๆ และตัวผู้เล่นมากขึ้น”

โอปอล์ : “โอปอล์ เริ่มต้นเชียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่มาจริงจังตอนเริ่มเข้ามาทำงานในวงการกีฬา ความรู้เรื่องฟุตบอลของเราอาจจะไม่ได้มากเท่ารุ่นพี่ ดังนั้นจึงต้องทำการบ้านเยอะหน่อย พอทำการบ้านเยอะเราก็เริ่มรู้จักนักเตะมากขึ้น และเริ่มจะคุยเรื่องนี้กับเพื่อนผู้ชายได้มากขึ้นค่ะ”

ใครคือนักเตะในดวงใจของสองสาวครับ

ยุ้ย: “ยุ้ย ชอบ ไมเคิล โอเวน ควบคู่มากับ สตีเวน เจอร์ราร์ด ค่ะ ซึ่งในช่วงนั้น โอเวน ฝีเท้าดีมาก บุคลิกก็ดีดูโดดเด่นกว่า เจอร์ราร์ด ด้วยซ้ำ แต่พอเวลาผ่านไปเมื่อเราศึกษาเรื่องฟุตบอลมากขึ้น เราจะชอบนักเตะที่เป็นไอคอน และมีความภักดีกับสโมสรมากกว่า ซึ่งสำหรับ ยุ้ย โอเวน ไม่ได้เป็นแบบนั้น ตอนหลังก็เลยหันมาชอบพวกที่ทุ่มเททำงานหนักเพื่อสโมสรอย่าง แอนดี โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์ และ เจมี คาร์ราเกอร์ แทน”

โอปอล์ : “นักเตะในดวงใจของ โอปอล์ คือ คริสเตียโน โรนัลโด ค่ะ แต่จริง ๆ ก็ชอบ เดวิด เบคแคม นะ แต่เราไม่ได้
ผูกพันเพราะช่วงที่ เบคแคม อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังไม่ได้ดูฟุตบอลจริงจัง ไม่เหมือนในยุคของ โรนัลโด ซึ่งเป็นคนที่เข้ามาทำให้เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูมีสีสันมากขึ้น แถมยังมีพัฒนาการตลอดทั้งด้านร่างกาย และฝีเท้าจนทำให้เรารู้สึก ณ ตอนที่เขาอยู่กับสโมสรในช่วงแรกว่า นักเตะคนนี้คือแม่เหล็กที่ทำให้เราอยากติดตาม และมักจะมองหาว่า โรนัลโด อยู่ตรงไหนในสนาม ซึ่ง โรนัลโด ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ โอปอล์ เริ่มเชียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างจริงจังด้วย”

ตั้งแต่เริ่มต้นเชียร์ ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด มา เกมไหนที่ประทับใจที่สุด

ยุ้ย: “จริง ๆ มีหลายเกมนะ แต่ถ้าไม่นับคืนมหัศจรรย์ที่อิสตันบูล ก็จะเป็นเกมแชมเปี้ยนส์ลีก นัดที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งแพ้มาก่อน 0-3 คัมแบ๊กกลับมาชนะ บาร์เซโลนา 4-0 และเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3 ในรอบรองชนะเลิศ เมื่อฤดูกาล 2018/19 วันนั้นไม่มีทั้ง โม ซาลาห์ และบ็อบบี ฟีร์มิโน ต้องใช้ เซอร์ดาน ชากิรี กับ ดิว็อก โอริกี ลงเล่นแทนด้วยก็เลยคิดไม่ออกว่าเราจะกลับมาได้อย่างไร”

“แต่ ชากิรี ก็เล่นดี ส่วน โอริกี ยิงประตูได้ด้วย ครึ่งแรกนำอยู่ 1-0 ยังไม่เท่าไร แต่พอมันเป็น 2-0, 3-0 เสียงเชียร์ในแอนฟิลด์ก็กระหึ่มขึ้นมา และสุดท้ายเราก็มาได้ประตู 4-0 และชนะด้วยสกอร์นี้ มันคือปาฏิหาริย์ที่แอนฟิลด์จริง ๆ โดยสิ่งที่ทำให้มันต่างจากที่อิสตันบูล ก็คือมันเป็นชัยชนะที่บ้านของเราเอง แถมเรายังก้าวไปคว้าแชมป์ได้ด้วย มันจึงเป็นเรื่องราวที่มหัศจรรย์มากในมุมมองของคนเป็นแฟนบอลอย่างเรา”

โอปอล์ : “สำหรับ โอปอล์ เป็นแมตช์แรกที่ คริสเตียโน โรนัลโด ลงสนามให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการกลับมาอยู่กับทีมรอบ 2 ซึ่งเป็นการพบกับ นิวคาสเซิล จำบรรยากาศตอนที่ โรนัลโด เดินลงสนามมาท่ามกลางการต้อนรับของแฟนบอลในสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้เลย เขาดูประหม่าต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่พักใหญ่ ซึ่งสุดท้าย โรนัลโด ก็ยิงไป 2 ประตูช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะไป 4-1 มันเป็นวันที่ทำให้หัวใจของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาฟูฟ่องอีกครั้ง และรู้สึกมีความหวังมากขึ้น”

มีของสะสมเกี่ยวกับ ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด บ้างไหม และอะไรคือของสะสมชิ้นโปรด

ยุ้ย: “แรก ๆ คิดว่าจะไม่สะสม แต่ช่วง 4-5 ปีหลังมานี่ซื้อหมดทั้งเสื้อเหย้า เสื้อเยือน ยันเสื้อผู้รักษาประตู รวมทั้งยังมีพวกรองเท้าที่เป็นคอลเลกชั่นของ ลิเวอร์พูล ด้วย ต่อมาก็มีพวกฟิกเกอร์ที่เริ่มไหลเข้ามาเรื่อย ๆ ความฝันก็คืออยากจะทำมุมหนึ่งของบ้านให้กลายเป็น
แอนฟิลด์เล็ก ๆ”

“ส่วนของสะสมชิ้นโปรดมี 2 ชิ้น ก็คือ ผ้าพันคอของเกมที่ ลิเวอร์พูล พบ สเปอร์ ที่สนาม แอนฟิลด์ ตอนนั้นไปดูเกมที่สนามเองแล้วซื้อเอาไว้ตั้งแต่สมัยที่ ฟิลิปเป คูตินโญ ยังอยู่กับทีม ส่วนอีกชิ้นเป็นของที่แฟนลิเวอร์พูลคนหนึ่งชื่อ พี่เชน ให้มาเป็นป้ายทะเบียนลิเวอร์พูล ซึ่งได้มาตอนลิเวอร์พูลมาไทย โดยพี่เชนไปล่าลายเซ็นของทั้งนักเตะไทย และนักเตะลิเวอร์พูล มาให้เรา ซึ่งประทับใจมาก”

โอปอล์ : “โอปอล์ เพิ่งเริ่มจะมาเก็บในช่วงหลัง เริ่มจากเสื้อแข่งที่ค่อย ๆ เก็บไปเพราะก่อนหน้านี้เป็นคนที่ชื่นชอบ และติดตาม แต่ไม่ได้จ่ายตังค์ (หัวเราะ) อีกอย่างตอนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีช็อปอยู่ในไทย เราเองก็ยังเด็กอยู่ก็เลยไม่มีตังค์ แต่ช่วงหลังเริ่มซื้อเสื้อแข่งทุกปีเพื่อช่วยสนับสนุนสโมสร แล้วก็มีพวกผ้าพันคอ ล่าสุดก็เพิ่งไปซื้อผ้าพันคอแดงเดือดมาจาก พี่บี แหลมสิงห์ ค่ะ”

ตั้งความหวังกับผลงานของทีมรักในฤดูกาลนี้เอาไว้อย่างไร

ยุ้ย: “ก็หวังว่า ลิเวอร์พูล จะทำผลงานได้ดีเหมือนเดิม และมีแชมป์ติดมือสักรายการก็ดีใจแล้ว ยุ้ยมองว่า ณ วันนี้ทีมเราก็ยังหวังถึงแชมป์ได้อยู่ แต่ก็ยอมรับว่า การแข่งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี มันยาก ลิเวอร์พูล ตอนนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน นักเตะแกนหลักหลายคนก็เข้าสู่วัยเลข 3 กันแล้ว เราก็หวังว่า ทีมจะยังคงสามารถรักษามาตรฐานเอาไว้ได้”

โอปอล์ : “แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งมีการปรับโครงสร้างทีมใหม่อย่าง เอ็ด วูดเวิร์ด ก็เพิ่งลงจากตำแหน่งซีอีโอไป แถมยังมีการเปลี่ยนผู้จัดการทีม และทีมโค้ชด้วย โดย เอริก เทน ฮาก ก็เอาคนของตัวเองเข้ามา นี่ คริสเตียโน โรนัลโด ก็เกิดอยากย้ายทีมขึ้นมาอีก”

“เมื่อปัญหายังเยอะขนาดนี้ โอปอล์ มองว่า ถ้าเป็นไปได้ก็ขอจบในพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ลีก ก็พอแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของ เทน ฮาก ในการทำงานปีแรกได้ และทำให้แฟนบอลยอมรับในตัวเขาด้วย โอปอล์ อยากให้แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด อดทนไปด้วยกันเพราะมันต้องใช้เวลาแน่นอนในการพาทีมกลับไปสู่จุดที่เคยอยู่อีกครั้ง”

นอกจากฟุตบอลแล้วยังติดตามกีฬาประเภทอื่นด้วยไหม

ยุ้ย: “ยุ้ย ดูกีฬาทุกประเภทค่ะ ดูทั้งวอลเลย์บอลไปยันตะกร้อค่ะ นอกจากนี้ แบดมินตัน เทนนิส เอฟวัน เราก็ดู เอาง่าย ๆ ว่า เสาร์-อาทิตย์ ถ้าได้อยู่บ้านก็จะเปิดช่องกีฬาทิ้งวนไปเรื่อย ๆ เจออะไรก็ดูอันนั้น ส่วนฟุตบอลไทยนี่ดูยันไทยลีก 2 เพราะเชียร์ เกษตรศาสตร์ เอฟซี ค่ะ”

โอปอล์ : “โอปอล์ จะเลือกดูกีฬาที่ได้รับความนิยมมากหน่อยค่ะ อย่างเทนนิสก็จะชอบดูเพราะชอบ ราฟาเอล นาดาล ถ้าเป็นกีฬาไทยก็จะดูประเภทที่นักกีฬาไทยทำผลงานได้ดีอย่าง แบดมินตัน และวอลเลย์บอล ส่วนฟุตบอลทีมชาติไทย ก็จะดูเฉพาะแมตช์สำคัญ ๆ ส่วนไทยลีกนี่ไม่ได้ติดตามเท่าไรค่ะ”

สุดท้ายฝากผลงาน และช่องทางการติดตามหน่อยจ้า

ยุ้ย: “ฝากติดตามผลงานทางช่องไทยพีบีเอส ค่ะ รายการ วันใหม่วาไรตี้ แล้วก็รายการ ลุยสนามข่าวเย็น ทางช่องทีสปอร์ต 7 แล้วก็มีรายการวิทยุทางเอฟเอ็ม 99 ที่จัดกับโอปอล์ ทุกวันพฤหัสบดี ส่วนทางเฟซบุ๊กก็เจอกันได้ที่ Chamaiporn Heanprasert และไอจี chamai_yui ค่ะ”

โอปอล์ : “ฝากรายการเกาะสนามข่าวเช้าทางช่อง ทีสปอร์ต 7 ค่ะ ก็จะมาอ่านข่าววันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ รายการมีทุกวันตั้งแต่ 08.00 น. นอกจากนี้ก็ยังมีรายการวิทยุชื่อกีฬาพารวย ทางเอฟเอ็ม 97 วันอังคาร 21.00 น. แล้วก็มีทางเอฟเอ็ม 99 ที่จัดกับยุ้ย และมีเกาะเบาะอีสปอร์ตส์ วันเสาร์บ่ายสามด้วยค่ะ ส่วนช่องทางการติดตามก็มีเฟซบุ๊ก โอปอล์ all in เป็นเพจไลฟ์สไตล์ของ โอปอล์ เอง มีเรื่องของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย นอกจากนี้ก็ติดตามได้ทางไอจี opolnatcha ค่ะ”.

เรื่อง/ภาพ ประพนธ์ ปัญหา

ชื่อ : ณัฐชา เสนาบุตร

ชื่อเล่น : โอปอล์

วันเกิด : 23 ธันวาคม

จังหวัด : แพร่

ส่วนสูง : 155 ซม.

การศึกษา : ปริญญาตรีสาขาการประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, ปริญญาโทสาขานิเทศศาสตร์

อาหารที่ชอบ : ปิ้งย่าง

งานอดิเรก : ร้องเพลง ดูบอล

ช่องทางการติดตาม : FB : โอปอล์ all in, IG : opolnatcha

ชื่อ : ชไมพร เห็นประเสริฐ

ชื่อเล่น : ยุ้ย

วันเกิด : 1 ตุลาคม

จังหวัด : นนทบุรี

ส่วนสูง : 168 ซม.

การศึกษา : ปริญญาตรีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

อาหารที่ชอบ : สุกี้

งานอดิเรก : ออกกำลังกาย

ช่องทางการติดตาม : FB : Chamaiporn Heanprasert, IG : chamai_yui