นายสัตวแพทย์ ธีรพล ชินกังสดาร อาจารย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเรื่องม้า เป็นสัตวแพทย์ประจำทีมชาติ และทีมฝ่ายตัดสินการแข่งขันทีมขี่ม้านานาชาติ เปิดผยว่า ขั้นตอนการรักษาม้า สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้ก่อนว่าม้าป่วยเป็นอะไร เจ้าของม้าจำเป็นต้องมีข้อมูลของสัตว์เลี้ยง ม้าตัวนี้ได้มานานแล้วหรือยัง นิสัยเป็นอย่างไร เพื่อการเข้าถึงม้าตัวนั้นๆ เพราะหากเขาไม่ยอมให้ตรวจ แม้แต่หมอก็ทำอะไรเขาไม่ได้ นอกจากนี้ ยังต้องรู้เรื่องการดูแลม้า ว่าเป็นอย่างไร ฝึกแบบไหน ใช้งานอะไร เลี้ยงเล่นทั่วไป หรือเป็นม้าแข่งความเร็ว หรือประเภทม้ากีฬา กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ศิลปะบังคับม้า หรือวิ่งทางไกล เพราะม้าแต่ละประเภทการใช้งาน จะมีการเจ็บป่วยที่แตกต่างกัน การรู้จักม้า จะทำให้สัตวแพทย์สามารถวินิจฉัยโรคของม้าได้ง่ายขึ้น รวมถึงเรื่องของอายุของม้า ประวัติการทำวัคซีน ซึ่งสำคัญมาก และที่แนะนำคือ วัคซีนหวัดม้า วัคซีนป้องกันบาดทะยัก วัคซีนไข้สมองอักเสบ และวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เพราะโรคเหล่านี้ สามารถทำให้ม้าตายได้ ม้าทุกตัวจำเป็นต้องได้รับวัคซีนเหล่านี้ การเลี้ยงม้า ไม่ใช่แค่ให้อาหาร หรือให้ยารักษาโรคเท่านั้น ยาก็จำเป็นต้องเป็นยาเฉพาะม้าเท่านั้น การจะนำม้าไปพบแพทย์ แนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพราะจะเข้าใจม้าได้มากกว่า ม้าก็จะไม่เครียด และม้าก็จะให้ความร่วมมือในกระบวนการรักษามากกว่า

ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยมีการระบาดของโรคในม้า (African Horse Sickness – AHS) ทำให้เกิดความสูญเสียในม้าค่อนข้างมาก ซึ่งที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์และหมอม้า ก็พยายามควบคุมโรค ปัจจุบันสามารถทำวัคซีนป้องกันได้แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวมานานกว่า 2 ปีแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขอการรับรองสถานะปลอดโรคจาก OIE ซึ่งก็จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายม้าข้ามจังหวัด เพราะการเคลื่อนย้ายจะต้องขออนุญาตทุกครั้ง

อาหารม้าก็สำคัญ โดยเฉพาะอาหารเม็ด ต้องเป็นอาหารสำหรับม้าเท่านั้น และปริมาณที่เหมาะสม ที่ผ่านมา พบผู้เลี้ยงในต่างจังหวัด นำอาหารเม็ดของวัวหรือสุกร นำมาให้ม้ารับประทาน ด้วยเหตุผลว่า หาซื้อได้ง่าย แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพม้า เพราะสารอาหารบางอย่างไม่เหมาะกับม้า อาทิ ไนเตรต หรือคาร์โบไฮเดรต หากหาไม่ได้จริง ๆ แนะนำเป็นหญ้าแห้ง หรือหญ้าสด จะดีกว่า ม้าในประเทศไทย มีทั้งเลี้ยงเป็นเพื่อน เลี้ยงไว้ดูเล่น หรือเลี้ยงเพื่อการกีฬา ซึ่งมีประเภทความเร็ว และที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ ประเภทกีฬาสวยงาม ตั้งแต่จูงให้เดิน ท่าทางการขี่ ศิลปะการบังคับม้า กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง วิ่งระยะทางไกล ซึ่งการเลี้ยงม้าประเภทนี้ กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ผู้ปกครองหลายคนสนับสนุนบุตรหลานในการเล่นกีฬาประเภทนี้ ลูกหลานก็จะมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยง เข้าใจม้า มีความรักและเมตตา มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน

สำหรับผู้สนใจเลี้ยงม้า จำเป็นต้องศึกษาหาความรู้ก่อนจะนำม้ามาเลี้ยงจริง ม้ามีค่าตัวตั้งแต่ศูนย์บาทถึงหลายแสนบาท นอกจากนี้ยังมีเรื่องการดูแล ค่าอาหาร ค่ายา ค่ารักษาพยาบาล เมื่อรับมาแล้ว ก็ต้องดูแลเขาให้ดี รับมาก็ต้องตรวจโรค การให้วัคซีน ต้องถ่ายพยาธิ หากเป็นม้ากีฬา ก็ต้องดูแลเพิ่มขึ้นกว่าการเลี้ยงทั่วไป ต้องสังเกตความผิดปกติในแต่ละวัน ที่สำคัญเมื่อเจ็บป่วย จำเป็นต้องนำม้าไปพบแพทย์ หรือจะให้สัตวแพทย์มาดูแลที่บ้าน ทุกอย่างเป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น.

บดินทร์ชัย เกรียงไกรชาญ