วันนี้(19 ก.ค.) “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ปัจจุบันกลับมารับงานคุมทัพ “นาคามรกต” เกษตรศาสตร์ เอฟซี ทีมไทยลีก 2 พร้อมทนายความ ได้เดินทางไปที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแจ้งความเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด ที่ใส่ร้าย สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง จากคอมเมนต์ในโลกโซเชียล ทั้งนี้ โค้ชโย่ง ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.บก.ปอท.
“โค้ชโย่ง” กล่าวว่า ไม่ว่าสโมสรหรือทีมชาติ วิจารณ์ได้ แต่ต้องมีกรอบ ไม่ใช่เสียๆ หายๆ ดูถูกกัน การฟ้องครั้งนี้ ต้องการให้เป็นคดีตัวอย่าง จะเรียกเป็นเงินเท่านั้น ไม่รับคำขอโทษหรือกระเช้า เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ส่วนเงินก็ไม่ได้เข้ากระเป๋าตัวเอง ตนจะเอาไปซื้ออุปกรณ์กีฬาแจกทั่วประเทศ
โค้ชโย่ง ยังให้สัมภาษณ์ กีฬาเดลินิวส์ เพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่ตนไปแจ้งความเอาผิดนั้น มีอยู่ 6 คน ส่วนจะเรียกค่าเสียหายอย่างไร เท่าไหร่นั้น ยังบอกไม่ได้ มีขั้นตอนทางกฎหมาย สำหรับผู้ใช้บัญชีอวตารนั้น ก็ไม่ยากต่อการสืบค้น เพราะไม่ว่าอย่างไรต้องมีข้อมูลพื้นฐานอยู่แล้ว
เมื่อถามกรณีที่ เมื่อเป็นข่าวออกไปว่าจะฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด โลกโซเชียลมีเสียงแตก คือบางส่วนก็เห็นด้วย ขณะที่บางส่วนก็คอมเมนต์ทำนองว่าอ่อนไหวไปหรือไม่ เป็นบุคคลสาธารณะน่าจะรับเสียงวิจารณ์ได้ เรื่องนี้ โค้ชโย่ง กล่าวว่า คิดว่าการฟ้องครั้งนี้ ไม่ได้อ่อนไหวเกินไป เพราะถ้าอ่อนไหวก็คงฟ้องไปนานแล้ว พิจารณาดูแล้วว่า ข้อความต่างๆนั้น มันเกินไปจริงๆ หากวิพากษ์วิจารณ์กันบนพื้นฐาน วิจารณ์การทำงาน การคุมทีมนั้น ได้อยู่แล้ว แต่กลุ่มที่ตนต้องฟ้อง ตนคิดว่าข้อความที่คอมเมนต์มันเกินไป ตอนนี้ตนก็ไม่ได้เป็นโค้ชทีมชาติไทยแล้ว จึงมาดำเนินการ นอกจากนี้ที่สำคัญตนอยากจะเห็นหน้าบุคคลเหล่านั้น อยากจะคุยอะไรกันสักหน่อย
เมื่อถามว่า หลังจากนี้ หากมีการคอมเมนต์แรงๆ อีก จะฟ้องลอตใหม่หรือไม่ โค้ชโย่ง ตอบว่า “ถ้าด่าอีก ก็มีอีก”
ส่วนอีกกรณี ที่มีมิจฉาชีพ แอบอ้างโค้ชโย่งไปจัดฟุตบอลเด็ก จากนั้นคนจัดดันเชิดเงินค่าสมัครหนีไป และโค้ชโย่งไปแจ้งความไว้ที่ สน.ฉลองกรุง มีนบุรี นั้น อดีตกุนซือทีมชาติไทย กล่าวว่า ตอนนี้เป็นเรื่องของตำรวจกับผู้เสียหาย ตนไปแจ้งความ ลงบันทึกเป็นหลักฐานว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งนั้น และอธิบายให้ผู้ปกครองทราบแล้ว.