เรียกได้ว่าต่อให้ไลฟ์กี่ครั้ง ก็เรียกเรตติ้งและความสนใจจากประชาชนที่รอรับชม จนกลายป็นกระแสอยู่บ่อยครั้ง สำหรับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนล่าสุดอย่าง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์”

แต่นอกจากความสนุกได้ความรู้ รวมไปถึงเห็นแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาว กทม.แล้วนั้น.. คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในเสียงหล่อๆ ที่ร่วมพูดคุยไปพร้อมกับ “ชัชชาติ” แทบจะทุกครั้ง จนหลายๆคนคุ้นหูกับเสียงหล่อๆ ของ “แอดมินหมู-วิทยา ดอกกลาง” หนุ่มวัย 26 ปี ที่วันนี้เราจะมาพูดคุยกับเขากัน..

ที่มาที่ไป เรามาทำงานกับคุณชัชชาติได้ยังไง
แอดหมู : ก็ได้รับการเชิญจากพี่รองฯ ศานนท์ครับ เป็นคนที่รู้จักกันอยู่แล้ว เคยทำงานสารคดีด้วยกันมาตลอด พอเขามีโอกาสมาทำงานกับ อ.ชัชชาติ เขาก็เลยเรียกเรามาช่วยงานด้วย เราเลยเริ่มจากทำงานโปรดักชั่นก่อน
ร่วมงานกับทีมงานคุณชัชชาติมานานหรือยัง
แอดหมู : ร่วมงานมากับ อ.ชัชชาติ มาประมาณไม่ถึงปี เพราะเวลาที่ผ่านมารู้สึกนานมาก จนไม่ได้จับเวลา แต่เรารู้สึกว่ามันนานมาก ๆ ครับ

ทุกคนอาจเคยสงสัยว่าคุณชัชชาติตื่นตั้งแต่ตี 3-4 เราต้องตื่นตามท่านไหม ตารางงานเราเป็นยังไงบ้าง
แอดหมู : ต้องตื่นตามครับ ถ้าท่านไปไหนเราก็ไปตาม แต่เราไม่ได้วิ่งทุกวันนะ แต่ชีวิตเราเปลี่ยนละ พอถึงประมาณตี 5 เราก็จะเด้งขึ้นมา ‘xมีไรทำปะวะ’ ไม่มีก็นอนต่อ เหมือน อาจารย์ชัชชาติเคยเล่าว่า ถ้าตื่นมาแล้วไม่มีอะไรทำก็ไร้ประโยชน์ เราตื่นมาไม่มีอะไรเราก็นอนต่อละกัน เราก็พร้อมทำงานเช้าตลอดเวลา อันไหนถ้าเรารู้ว่าอันไหนมีปัญหาช่วงเช้าแน่ ๆ เราก็เตรียมตัวตื่นมา ก็สแตนด์บายแป๊บนึง อย่าเพิ่งหลับ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมา

ตารางชีวิตเราเปลี่ยนมั้ย ก่อนหน้านี้กับตอนนี้
แอดหมู : เปลี่ยนนะ รู้สึกสบายขึ้น ตื่นเช้าขึ้น มีเวลากับชีวิตมากขึ้น ได้เอาเวลาไปทำงานเยอะขึ้น ไม่ได้เสเพล เรื่อยเปื่อย นั่งกินเหล้า ตื่นสาย ดูหนัง นอน อะไรแบบนี้
สุขภาพจิตเราดีขึ้นไหม
แอดหมู : มันขึ้นอยู่กับคนรอบข้างด้วย แน่นอนว่ามันดีขึ้นครับ

ไลฟ์กับคุณชัชชาติบ่อยขนาดนี้ จริง ๆ เรามีเปลี่ยนคนมั้ยหรือว่าทำคนเดียวเลย
แอดหมู : ทำคนเดียวเลยครับ
เอาแรงมาจากไหนกัน
แอดหมู : เราพยายามถามตัวเองว่าระหว่างชายอายุ 56 ปี กับ อายุ 26 ปี มาดูซิใครจะน็อกก่อนกัน เขาไหวเราก็ต้องไหว ลุงเขายังไหว เราจะไม่ไหวได้ยังไง ต้องซัดกันสักยกนึง สุดท้ายก็แพ้ครับ ไม่รู้เขาเอาแรงมาจากไหน เขาเก่งมากครับ
จริง ๆ ตำแหน่งหน้าที่ของเราคืออะไรคะ
แอดหมู : ตำแหน่งของเราคือไม่มีตำแหน่งครับ เป็นแค่ทีมงาน เป็นผู้ช่วยเรื่องการถ่ายทอดสดมากกว่า ไม่ได้อยู่ในระบบ เป็นคนนอกครับ

แนวทางในการไลฟ์ของเราเป็นยังไงคะ
แอดหมู : เราอยากไลฟ์อะไรที่คนดูอยากจะเห็น เราคิดว่าคนดูต้องการเห็นสิ่งนี้เราก็จะถ่ายทอดสด เราต้องการให้ผู้ชมเห็นผลลัพธ์มากกว่ากระบวนการ คิดก่อนว่าประชาชนอยากรู้อะไร เพื่อให้รู้การทำงานที่แท้จริงว่า ผู้ว่าทำงานอะไรยังไง
ถือว่าเป็นเทคนิคของเราด้วยมั้ย ที่ทำให้ไลฟ์ของ อ.ชัชชาติ ได้รับผลตอบรับที่ดี
แอดหมู : ไม่รู้นะ ผมว่าคนอยากดู อ.ชัชชาติ แหละ แค่เข้าใจว่าประชาชนอยากดูอะไร นั่งเสวนากัน 2 ชม.แบบนี้ประชาชนไม่อยากเห็น เรื่องราวที่เกิดขึ้นข้างใน พยายามเดาให้ออกแล้วจะรู้ว่าเราจะถ่ายทอดสดอะไร

เห็นไลฟ์ทุกวันขนาดนี้ เหตุการณ์อันไหนที่ประทับใจมาก
แอดหมู : วันสุดท้ายของการเลือกตั้งครับ หาเสียงวันสุดท้าย เราไม่ได้เปิดเวทีใหญ่เหมือนคนอื่นครับ เราไปแต่ละที่ พลังมหาศาลมากครับ คนแห่กันเข้ามา วันนั้นเป็นวันที่ชัดเจนเลยว่า นี่แหละคือเสียงประชาชน ทุกคนมีรอยยิ้ม พร้อมส่งใจให้ อ.ชัชชาติ เลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ไม่ต้องเลือกตั้งก็ได้ รู้ผลแล้ว รู้ผลว่าเราทำเต็มที่ ไม่ได้รู้ผลว่าแพ้ชนะ มันเปลี่ยนไปมากจากวันแรกเดินแค่คนเดียว ตอนนี้เดินเป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้านแล้ว เป็นการหาเสียงวันสุดท้ายในรอบ 2 ปีครึ่ง จะจบลงวันนี้ละ ผลที่ออกมาไม่สนใจละ เห็นคุณค่าว่ามันคุ้มค่ามากกับสิ่งที่เราทำมา หายเหนื่อยทุกครั้งที่ประชาชนยิ้มครับ แค่เห็นคนยิ้มเพราะสิ่งที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตเขาได้ มันฮีลต่อจิตใจคนงานทุกคนครับ

แล้วเวลาที่เราตามท่านไปทุกวัน มันจะมีเวลาที่เราโดนท่านแซว ดุบ้าง ตำหนิบ้าง เรารู้สึกอย่างไรบ้างคะเวลามีประเด็นเกิดขึ้น
แอดหมู : ก็ต้องดูว่าจริงจังหรือเล่น แต่คนดูไม่ค่อยรู้ มันก็มีแอบจริงจังบ้างบางเรื่อง มีเล่นบ้าง ส่วนมากจะเล่น แต่จังหวะจริงจังก็แบบจึ๊กเลย
เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม
แอดหมู : แบบ ทำไรผิดวะ อะไรประมาณนั้นมากกว่า แต่ก็พยายามเข้าใจว่าบางทีเขามีหลายเรื่องที่คิดเยอะมาก ดังนั้นเราก็ต้องเป็นคนซัพพอร์ตเขาให้ได้ เพราะว่าเราเป็นคนข้างๆเขาด้วย เราต้องคอยส่งเสริมเรื่องกำลังใจแล้วก็ทุกอย่าง เพื่อให้ทุกอย่างมันออกมาดีที่สุด ซึ่งเราก็มีความคิดว่า เราเข้าใจแล้วเราก็จะปรับให้เข้ากันมากขึ้น

แล้วตอนนี้เราลื่นไหลมากขนาดไหน เราลื่นไหล ซัพพอร์ตเข้าใจท่านได้ขนาดไหน
แอดหมู : ก็ไม่รู้นะ บางทีอาจจะเข้าใจคนเดียวไง บางทีเขาก็แบบ *งอ่ะคิดไปเองหมู อะไรอย่างงี้ก็ได้ แต่ก็พอทราบหลายๆอย่างครับ ถ้าสบตาก็รู้เลยว่าต้องขับเคลื่อนไปไหน เกือบรู้ใจแหละ ยังไม่รู้ใจ แต่เกือบๆ
สิ่งที่เราได้ทำงานร่วมกับท่านเราเอามาปรับใช้ในชีวิตหรือการทำงานอย่างไรบ้าง
แอดหมู : คิดแง่บวกครับ อยู่ข้างๆคนคิดบวกมันก็จะตอบอะไรเป็นสิ่งบวกๆเสมอ แต่ก่อนเราอาจจะเป็นคนคิดลบก่อน ถ้าบวกจริงเดี๋ยวมันจะบวกเอง แต่ก่อนนะคิดอย่างงี้ คิดแบบไม่ดีไปก่อน แล้วเดี๋ยวถ้ามันดีมันจะผุดออกมา เหตุผลจะโต้แย้งออกมาเอง และจริงๆแล้วมันก็ดู Toxic นะ คือมันเป็นวิธีการหาคำตอบอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งมันไม่มีผิดไม่มีถูก แต่ผมรู้สึกว่าถ้าคิดบวกไว้ก่อนมันเวิร์กกว่า มันมีแต่กำลังใจให้กัน มีแต่ความร่วมมือ

สำหรับการไลฟ์ในอนาคตเรามีแนวทางพัฒนาหรือว่าจะไลฟ์ไปในแนวทางไหน
แอดหมู : เดี๋ยวก็โดนไล่ออกละครับ (หัวเราะ) ล้อเล่นนะ ก็แนวทางยังไงยังไม่ได้คิดครับ เพราะช่วงนี้มันเป็นช่วงผลัดเปลี่ยนนิดนึง อำนาจมันสูงเกินไปสำหรับการไลฟ์สด ตอนนี้มันสูงเกินไป ดังนั้นเดี๋ยวต้องคิดวิธีการแก้ไขในอนาคตว่าเราจะแบ่งพื้นที่ให้สื่อไปเลยหรือจะลดน้ำหนักยังไงบ้าง หรือเราจะปรับยังไงเพื่อให้อำนาจมันสมดุลกัน ตอนนี้อำนาจสื่อของชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สูงมหาศาลมาก ก็กำลังดูวิธีการแก้ไขต่อไปว่าเราจะคงไว้ตรงนี้ตามเสียงของประชาชนหรือว่าเราจะกระจายไป ซึ่งเราเดาแล้วก็คุยๆกับอาจารย์แล้วก็น่าจะทำไปเรื่อยๆ ทำจนผู้ชมเบื่อ ทำจนไม่มีคนดูละกัน ถ้าไม่มีคนดูเราก็ โอเคจบ จบการถ่ายทอดสดเพียงเท่านี้ แอดมินหมูจะจบยุติบทบาทเพียงเท่านี้ครับ ประมาณนั้น

เดี๋ยวก็ต้องรอดูกัน
แอดหมู : ใช่ แต่เรื่องวิธีการปรับเปลี่ยน หรือการถ่ายทอดสดคงไม่มีอะไรแล้ว อะไรที่มันดีอยู่แล้วเราไม่ต้องไปเปลี่ยน เราแค่พยายามรักษามันไว้ให้ได้ แล้วเดี๋ยวมันก็จะค่อยๆดีขึ้นไปเรื่อยๆตามประสบการณ์เองครับ

อยากให้เล่าถึงตารางการทำงาน เพราะไลฟ์ทุกวันเลย แล้วเราใช้ชีวิตของเราอย่างไรบ้าง
แอดหมู : ก็ถ้ามีหมายเช้า มีการวิ่ง ก็ต้องตื่นสักตีสาม ไปหาอาจารย์ตีสี่ ไปถึงงานตีห้า เห็นมะ เราจะมีเวลาที่ต้องตื่นก่อนเขาแล้ว แต่ส่วนมาก ไม่ส่วนมากหรอก 70 20 ละกัน เราจะไปดีเลย์ 5-10 นาที แล้วก็จะโดนบ่น ก็น้อมรับแล้วก็ปรับปรุง ตอนนี้ก็ค่อยๆดีขึ้น แต่ก็มีข้อผิดพลาดที่ผมทำมานะ ถ้าเป็นงานเช้า ส่วนกลางวันเสร็จก็จะเริ่มเช้าก็เข้าศาลาไปประชุม ออกมาเดินพุดคุย ไปทำงานอะไรต่อ ลงพื้นที่ไหม หรือว่าไปดูปัญหาอะไร ก็จะเป็นโอกาสที่จะได้พูดคุยกับประชาชน แล้วก็บ่ายก็ทำงานต่อ เย็นเลิกงาน ไม่รู้ว่าเลิกงานกี่โมง เราพยายามคาดเดาสถานการณ์ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อ ฝนตกหนัก ก็แน่นอนว่าจะต้องไปดูแลพื้นที่ของน้ำท่วม ถ้าฝนไม่ตกเราเดาก่อนว่ามีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นไหม มีท่าทางไหม ประมาณนั้นครับ แต่ซึ่งมันเดาอะไรไม่ได้หมดหรอก

แล้วเอาเวลาตรงไหนไปพักผ่อน
แอดหมู : ส่วนมากเวลาพักผ่อนก็จะเป็นทุกช่วงที่มีครับ เรามีเวลาว่างตอนไหนเราก็แอบนอนไป จะได้รู้สึกว่าเฟรชตลอดเวลา ส่วนกลางคืนถ้ามันจำเป็นที่จะต้องออกจริงๆ คือกลางคืนผมไม่เกี่ยงเลย ผมลุยกลางคืนได้ทั้งคืน แต่ถ้าลุยเช้านะ ผมก็มีปัญหากับตัวเองนิดนึง ตื่นยาก เป็นคนตื่นยากครับ
ทำงานตลอดเวลาขนาดนี้เอาเวลาที่ไหนไปดูแลคนรอบตัวคะ
แอดหมู : คนรอบตัวเข้าใจครับว่าสิ่งที่เราทำทำเพื่ออะไร ทำเพื่อประชาชน มันเป็นการที่ก็น่ารักดีนะเพราะว่าเราได้ดูแลคนอื่นมากกว่าครอบครัว กลายเป็นว่าเราดูและประชาชนทุกคนนะ แล้วก็ลืมดูแลครอบครัว แต่ครอบครัวเข้าใจ ครอบครัวสนับสนุนการทำงานแบบนี้แล้วตอนนี้เราวางแผนชีวิตตัวเองไว้ว่ายังไง
แอดหมู : ก็ทำตรงนี้ให้เต็มที่ ก็ทำตรงนี้ให้เต็มที่ก่อน เพราะว่าเราก็มีบริษัททำโฆษณาของเราอยู่แล้ว บริษัทเรามันก็เดินไปของมัน เราก็ไปตรวจงานตามโครงเรื่องของงานของมัน ตรงนี้ก็ทำเต็มที่ไป ทำเต็มที่ให้สุด แล้วก็ดูว่ามันจะจบที่ว่าหมูจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเปล่า (ยิ้ม) ล้อเล่นนะ

อยากให้ฝากถึงน้องๆที่เขาอาจจจะเห็นการทำงานของเราแล้วเห็นเราเป็นไอดอล
แอดหมู : หมูว่าหมูยังเป็นไอดอลใครไม่ได้นะเพราะหมูว่าหมูยังไม่ได้ดีพอ หมูรู้สึกว่าหมูยังไม่ใช่คนที่ดีพอ ดังนั้นคือไม่ต้องเอาหมูเป็นไอดอลก็ได้ ชอบตรงไหนก็เอาตรงนั้นไป ไม่ต้องมาคลั่งว่า พี่หมูๆๆ ไม่เอา ชอบตรงไหนก็เอาตรงนั้น หมูมีอะไรดีอ่ะพี่ มีแค่เสียงใช่ไหม ก็หยิบจับอะไรให้มันถูกควรแหละ ก็ถ้าเป็นไอดอลเหรอ ก็สู้ๆนะ เลือกทางของชีวิตให้ดี แล้วก็ลุยไปให้สุด แล้วก็จะบอกว่าเส้นชัยไปไม่ถึงไม่เป็นไร ระหว่างทางมันมีค่าเสมอ ก็ลุยไปให้สุด ระหว่างทางมันอาจจะมีเส้นทางใหม่เกิดขึ้นมาได้ตลอด อย่างตอนแรกหมูมาอยู่ตรงนี้ได้ไงหมูก็ไม่รู้นะ แต่ตอนนี้หมูก็มีเส้นทางในชีวิตของหมู ระหว่างทางมันอาจจะมีแตกเส้นทางได้อีก ซึ่งระหว่างทางไปอีกในซอยยึกยักอาจจะให้คุณค่าอะไรกับชีวิตเรามาก หรืออาจจะเปลี่ยนชีวิตเราเลยก็ได้ หมูก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาอยู่ตรงนี้นะ แต่ก็มาอยู่แล้ว ก็ลุยให้เต็มที่ครับ..