“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุด 19 ปี ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอล 19 ปี อาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากเตะส่งท้ายรอบแรก กลุ่ม A เสมอ เวียดนาม 1-1 โดยไทยนำก่อน และโดนตีเสมอ ไทยเข้ารอบเป็นอันดับ 2 จะพบ ลาว หรือ มาเลเซีย วันที่ 13 ก.ค.65

ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า เกมกับเวียดนาม นักเตะค่อนข้างล้า เพราะใส่พลังไปจนหมด เกมต่อไป จะได้ คคนะ คำยก พ้นโทษแบน จะทำให้ทีมทำผลงานดีขึ้น ตอนนี้ต้องศึกษาทีมอีกกลุ่ม และจะมีการวางแผนอีกครั้ง ส่วนของคนที่ติดโทษแบน อย่าง ธนวัฒน์ ทรายเพชร ที่เป็นนักเตะคนสำคัญ ยอมรับว่ามีผล แต่ต้องทำการบ้าน วิเคราะห์คู่แข่ง และมองหาคนมาแทนที่

สำหรับการเข้ารอบของไทยนั้น มาจากที่ จบรอบแรก มี 3 ทีม มี 11 แต้มเท่ากัน คือ เวียดนาม, ไทย และ อินโดนีเซีย ต้องดูมินิลีก ซึ่ง เวียดนาม กับ ไทย เข้ารอบ ส่วน “เจ้าภาพ” ตกรอบ ทำให้ ชินแตยัง โค้ชอินโดฯ ข้องใจเรื่องนี้ ระบุว่า ทีมอินโดฯ ต้องตกรอบทั้งที่มีผลงานดีกว่าทุกทีม ตนเข้าใจกฎเฮดทูเฮด แต่คิดว่ามันแปลกในการนำมาใช้ การตกรอบของ อินโดฯ ไม่สมเหตุสมผล คิดว่าทั้ง เวียดนาม และ ไทย ควรเล่นกันอย่างเต็มที่ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น

“ผมคิดว่าไทยกับเวียดนามคงกลัวอินโดนีเซีย ผมไม่พอใจกับสถานการณ์นี้ มันทำให้เห็นว่า ไทย และ เวียดนาม รู้ว่า อินโดนีเซีย กำลังมีพัฒนาการที่ดีขึ้น พวกเขาจึงเล่นแบบนั้น”

ขณะที่ โมชาหมัด อิเรียวาน ประธานสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย (PSSI) เตรียมยื่นเรื่องต่อสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ให้พิจารณาถึงการเล่นของคู่ ไทย กับ เวียดนาม ในช่วงท้ายเกม โดยบอกว่าจะรอดูวิดีโอการแข่งชัน และยื่นเรื่องต่อ เอเอฟเอฟ

สำหรับการพบกันของ 3 ทีมดังกล่าว เวียดนาม เสมอ อินโดฯ 0-0, ไทยเสมอ อินโดฯ 0-0 และ ไทยเสมอ เวียดนาม 1-1 ทำให้ อินโดฯ ที่ยิงไม่ได้ ต้องตกรอบ ส่วน เวียดนาม ผลต่างประตูได้เสียโดยรวมดีกว่า จึงเข้าที่ 1