โนวัค ยอโควิช นัดหวดมือวางอันดับ 1 ของรายการชาวเซอร์เบีย ยอมรับหลังคว้าแชมป์ชายเดี่ยววิมเบิลดันเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันว่าแชมป์ครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมากหลังจากเผชิญช่วงเวลาลำบากมากมายตั้งแต่โดนเนรเทศออกจากออสเตรเลีย

ยอโควิช แซงทุบ นิค คีริออส นักหวดอารมณ์ร้อนจากออสเตรเลีย 3-1 เซต 4-6, 6-3, 6-4, 7-6 (7-3) คว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 7 และทำสถิติคว้าแชมป์แกรนด์สแลมเป็นรายการที่ 21 ในอาชีพเป็นรองแค่ ราฟาเอล นาดาล คู่ปรับตัวฉกาจจากสเปน ที่คว้าไปแล้ว 22 สแลมเพียงคนเดียวเท่านั้น ขณะที่ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักหวดอัจฉริยะจากสวิตเซอร์แลนด์ ตามมาเป็นอันดับ 3 โดยคว้าไป 20 สแลม

“วิมเบิลดันมาในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตผม” ยอโควิช กล่าวหลังจากที่โดนไล่ออกจากประเทศออสเตรเลียก่อนแข่งออสเตรเลียน โอเพ่น เนื่องจากไม่ฉีดวัคซีน ทั้งที่ตอนแรกถูกแจ้งว่าได้รับการยกเว้น จากนั้นยังพลาดแข่งหลายรายการที่สหรัฐด้วยเหตุผลเดียวกันและร่วง 8 คนเฟรนช์ โอเพ่น

“ช่วงหลายเดือนแรกของปีมันส่งผลกระทบกับผมอย่างมาก ผมรู้สึกไม่ค่อยดีนัก ทั้งจิตใจ อารมณ์ ผมตระหนักว่าต้องใช้เวลาสักระยะ ผมต้องอดทน และไม่ช้าก็เร็วผมจะทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่เหมาะสมที่สุด”

อย่างไรก็ตามแม้ป้องกันแชมป์สำเร็จแต่อันดับโลกของยอโควิช จะร่วงไปที่ 7 ของโลกในการประกาศอันดับวันที่ 11 ก.ค. เนื่องจากวิมเบิลดันปีนี้ไม่มีการเก็บคะแนนสะสมหลังจากฝ่ายจัดแบนผู้เล่นจากรัสเซียและเบลารุสทำให้เอทีพีและดับเบิ้ลยูทีเอริบแต้มรายการนี้

ดังนั้นเท่ากับว่ายอโควิชไม่สามารถป้องกัน 2,000 แต้มที่ได้แชมป์ปีก่อน และอันดับอาจหล่นไปมากกว่านี้อีกหากไม่ได้ลงแข่งเอทีพี มาสเตอร์ส และยูเอส โอเพ่น ที่สหรัฐ ที่ยังบังคับให้คนที่ไม่ได้พักอาศัยในสหรัฐต้องฉีดวัคซีนเท่านั้นถึงได้เข้าประเทศ ยอโควิช ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนและยืนยันจะไม่ฉีดด้วย ส่วนดานิล เมดเวเดฟ นักหวดรัสเซียยังคงเป็นมือ 1 โลกเช่นเดิม “ผมไม่ได้ฉีดวัคซีนและไม่ได้วางแผนที่ฉีดวัคซีน ดังนั้นข่าวดีเดียวที่ผมสามารถมีได้คือพวกเขายกเว้นการวัคซีนหรือผมได้ยกเว้น ผมไม่รู้ว่าจะได้รับการยกเว้นอะไรบ้าง ผมไม่มีคำตอบมากนัก”