เพซเฉลี่ย 5.08 หรือเฉลี่ย 1 กม. ใช้เวลา 5.08 นาที

นี่เป็นแชมป์ 100 กิโลเมตร ครั้งที่ 2 จากการลงสนามแข่ง 4 รายการของหนุ่มวัย 35 ปี

“ซอ” ธนัท วิจิตรสุนทร

ที่สำคัญ เขากำลังเป็นตัวแทนทีมชาติไทย ร่วมกับ “โทลมาฮอว์ค” เรืองยศ มหาวรมากร อีก 1 เทพอัลตรา ลงแข่งขันชิงแชมป์โลก อัลตรามาราธอน 100 กม. ครั้งที่ 31 ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

วิ่ง 100 กิโลเมตร เป็นระยะที่ “เหลือเชื่อ” สำหรับหลายๆ คน จึงน่าสนใจกับเส้นทางของเขา

เส้นทางที่วิ่งมาไกล ธนัท วิจิตรสุนทร เริ่มจากระยะมาราธอน 42.195 กม. ตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งถือว่าไม่นานมานี้เอง เปิดตัวมาก็กดสถิติ 4.12 ชั่วโมง และช่วงระยะเวลาปี 2015-2020 เขาลงสนามระยะฟูลไป 20 กว่ารายการ สถิติดีสุดคือ 3 ชั่วโมง 4 นาที

โบยบินไปทำงานที่ออสเตรเลียราว 4 ปี ก่อนกลับมาไทยได้เปิดประตูแรกสู่อัลตรา ตัดสินใจลงระยะ 50 กม. ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ “42 กม. วิ่งบ่อยแล้ว”

และจาก 50 กระโดดไป 100 กม. รายการแรก คืองานวิ่งที่สวนรถไฟ ไปแบบไม่ได้ตั้งใจ เพื่อนเข้าใจผิด บอกว่าถ้าต่ำกว่า 9 ชั่วโมง จะได้เงิน 5 หมื่นบาท “เจ้าซอ” ลูบปาก บอก…“จัดไปอย่าให้เสีย”

25 รอบสวนรถไฟ ซอวิ่งได้ต่ำกว่า 9 ชั่วโมงจริงๆ ซึ่งมี 6 คน ที่ทำได้ แต่เขาไม่ได้เงินรางวัลครึ่งแสน เพราะจริงๆ แล้ว ให้แค่แชมป์คนเดียว

นักวิ่งจอมอึด มีเสียดายเงินบ้าง เพราะไม่ใช่น้อยๆ แต่ที่คิดขึ้นมาได้คือ เวลาที่เขาทำวันนั้น คือปล่อยสบายๆ กะแค่เข้าก่อน 9 ชั่วโมง ยังไม่ได้เฆี่ยนอะไร เรียกว่าแรงเหลือเยอะ เรียกว่าดีกว่านี้ได้อีก

ตัดสินใจลุยต่ออัลตรา 100 กม. พอเห็น “เขาใหญ่ 100 กม.” เปิดสมัคร คิดในใจเลยว่า “เดี๋ยวพี่จะเอาจริงให้ดู” และก็คว้าแชมป์ได้สำเร็จ เวลา 8.27 ชั่วโมง ในการแข่งปลายปี 2020 จากนั้นโควิดเข้าพอดี กว่าจะได้ลงอีกทีก็เขาใหญ่ 100 ในปีต่อมา แต่แชมป์ตกเป็นของ “โทลมาฮอว์ค” ก่อนที่ล่าสุดมาได้แชมป์เชียงใหม่ เป็นแชมป์ 100 กม. รายการที่ 2

ฝึกยังไง ให้วิ่งอึด…การซ้อมของ เจ้าซอ บอกว่ารูปแบบคล้ายๆ ซ้อมวิ่งมาราธอน ทั้งความเร็ว, การลงคอร์ด, เทมโป แต่เพิ่มระยะ วันที่อีซี่รัน กับ ลองรัน โดย อีซี่รัน เป็น 20 กม. หรือ 30 กม. แบ่งเช้า 10 เย็น 20 ส่วน ลองรัน ถ้าช่วงปกติก็ 30-40 กม. หากก่อนแข่งก็ราว 50 กม. โดยก่อนไปคว้าแชมป์เชียงใหม่ ลากไป 77 กม. ราวๆ 3 สัปดาห์ก่อนแข่ง แล้วเพลาเครื่องลง

เฉลี่ยๆ แล้ว วิ่งสัปดาห์ละ 160-180 กม. ถ้าช่วงก่อนแข่งก็ขึ้นไป 200 กม.

การซ้อมแต่ละวัน ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ซึ่งด้วยความมุ่งมั่นของเขา ถึงกับออกจากงานมามุ่งทางนี้เต็มที่ ตั้งแต่กลับมาจากออสเตรเลีย ยังไม่มีงานประจำ

“ก็มีงานทั่วไปเล็กๆ น้อยๆ ครับ แต่ยังไม่มีงานประจำ ทีแรกกลับจากออสเตรเลีย ก็จะมามุ่งซ้อมวิ่ง ใช้เงินเก็บ แต่ตอนนี้หางานมาระยะหนึ่งแล้วครับ ผมจบด้านไอที พยายามสมัครอยู่”

“ซอ 100 โล” กล่าวต่อไปว่า การจะไปแข่งชิงแชมป์โลกที่เยอรมนี ก็ต้องควักทุนตัวเอง เพราะเป็นกรณีพิเศษก็ได้ สมาคมกีฬากรีฑาสมัครเล่นฯ ไม่สามารถจัดงบประมาณส่งแข่งได้ คาดว่าเพราะกะทันหัน ทีแรกไม่ได้อยู่ในแผน แต่ทางทีมผู้จัด “เขาใหญ่ 100” ไปประสานงานให้ สมาคมฯ จึงรับลูกต่อ แต่ก็ส่งแข่งให้ได้อย่างเดียว

“ก็ใช้ทุนส่วนตัว เงินเก็บ มีสปอนเซอร์ช่วยมาบ้างครับ ค่าอุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ แล้วเดี๋ยวจะออกเสื้อมาขาย เพื่อหาทุนอีกส่วนหนึ่งไปโปะเป็นค่าใช้จ่ายครับ เหมือนต้องควักเนื้อ แต่ก็ยินดี มันเป็นความสุขของนักกีฬา ที่ได้แข่งในฐานะทีมชาติไทย”

ส่วนเป้าหมาย ศึก 100 กม.ชิงแชมป์โลก เจ้าซอ วางไว้ว่า ต้องทำสถิติดีสุดของตัวเองให้ได้ วางไว้ที่ 7 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเวลาแบบนี้ ล่าสุดที่เชียงใหม่ ก็คุมได้ในครึ่งทางแรก แต่ไปเจอทางวิบากราว 6 กม. เวลาเลยล้นเกิน 8 ชั่วโมง

“ในเมื่อเป็นตัวแทนทีมชาติ ก็ต้องทำดีที่สุด อย่างน้อยผลงานต้องไม่น่าเกลียด ก่อนอื่นคือแข่งกับตัวเอง จากรายการที่แข่งในชื่อตัวเอง มาครั้งนี้คือทีมชาติไทย เพราะฉะนั้นต้องพยายามให้ดีกว่าทุกครั้ง” เจ้าซอทิ้งท้าย

เส้นทางที่แสนไกล เริ่มได้ด้วยก้าวแรก นี่คือครั้งแรกที่อัลตราไทย ไปประชันอัลตราโลก

จากสนามในไทย สู่ระดับโลก งานนี้ไม่มีคำว่าง่าย ทั้งต้องเอาชนะระยะ 100 กม., ชนะตัวเอง และสู้กับคู่แข่ง รอติดตามให้กำลังใจ 2 หนุ่มจอมอึดในศึกที่กรุงเบอร์ลิน ปลายเดือน ส.ค.นี้

ผลงานคือเรื่องของอนาคต แต่ที่มั่นใจได้คือพวกเขาสู้สุดใจ สมกับการเป็นตัวแทนประเทศไทยแน่นอน.

*** วุฒินล บุญวานิช ***

(ภาพ KHAOYAI100/CNX)