นายสุรพงษ์ เลิศสิทธิชัย นายกสมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ไทยและบิ๊กดาต้าในปี 64 จะมีมูลค่า 39,000 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีที่แล้วที่มีมูลค่า 34,229 ล้านบาท และคาดว่าในปี 65 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 45,094 ล้านบาท เติบโต 15% จากในปีนี้ ซึ่งมีการเติบโตทั้งในส่วนแอนิเมชั่น เกมและคาแรกเตอร์ แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ผู้ประกอบการไทยได้มีการปรับตัวเพื่อไม่ให้ มีผลกระทบมากนัก ประกอบในบางอุตาสาหกรรมก็มีแนวโน้มที่ดี เช่น กลุ่มอีเลิร์นนิงมีการพัฒนาคอนเทนต์ รองรับการเรียนการสอนด้วยดิจิทัล 100% กลุ่มภาพยนตร์การถ่ายภาพในสตูติโอใหญ่ก็ใช้ดิจิทัล สกรีน เข้ามาใช้ในการถ่ายทำ และใช้แอนิเมชั่นมาพัฒนาต่อยอดการถ่ายทำโดยไม่ต้องไปสถานที่จริง มีการงานรับจ้างผลิตงานแอนิเมชั่น และเกมจากต่างประเทศต่อเนื่อง รวมถึงนำอีคอมเมิร์ซช่วยจำหน่ายสินค้าต่างๆ ฯลฯ
ล่าสุดภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ประกอบด้วย 5 สมาคม คือ สมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย สมาคมอีเลิร์นนิงแห่งประเทศไทย และสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย ได้ร่วมกับ ภาครัฐ คือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ จัดมหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ “แบงค็อก อินเตอร์เนชั่นแนล ดิจิทัล คอนเทนต์ เฟสติวัล 2021 (Bangkok International Digital Content Festival 2021” ) หรือ BIDC 2021 ครั้งที่ 8 ในรูปแบบออนไลน์ ขึ้น ระหว่าง 1 ก.ค.-6 ส.ค. 64
โดยมีกิจกรรมเสวนาออนไลน์ จากวิทยากรชั้นนำระดับโลกและไทย พร้อมเปิดเวทีจับคู่เจรจาการค้าระหว่าง ผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ รวม 93 บริษัท เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต ในการสร้างเม็ดเงินและมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์ คาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะมีการจับคู่เจรจาธุรกิจมากกว่า 200 คู่และสร้างมูลค่าไม่น้อยกว่า 490 ล้านบาท และตลอดการจัดงาน 7 ครั้งที่ผ่านมา ทางทีเส็บระบุว่าได้สร้างผลทางเศรษฐกิจต่อรายได้ประชาชาติ (จีดีพี) มีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้ 233 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานกว่า 10,700 ตำแหน่ง.