จากกรณีที่มีผู้ปกครองร้องเรียนว่าโดนครูสอนเทควันโด ใน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ปลอมแปลงเอกสารของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เพื่อหลอกลวงว่าจะพาลูกชาย ไปเก็บตัวร่วมกับทีมชาติไทย โดยนำชื่อลูกชายผู้เสียหายใส่แทนที่ชื่อเด็กรายอื่น เพื่อหลอกให้หลงเชื่อ พร้อมอ้างว่าได้สิทธิเข้าร่วมเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อที่จะไปแข่งขันรุ่นยุวชนและเยาวชนทีมชาติ ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมเรียกเงินเก็บค่าฝึกสอน ค่าอบรม ตลอดจนค่าชุดและอุปกรณ์ต่างๆ รวมแล้วกว่า 80,000 บาท นั้น

ล่าสุด เมื่อ 2 ก.ค. “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้เป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่าย เป็นที่เรียบร้อย โดยได้ข้อสรุปคือทางผู้ฝึกสอนคนดังกล่าว ยอมคืนเงินจำนวน 80,000 บาท ให้กับผู้เสียหาย พร้อมนำกระเช้าเข้าขอโทษทางสมาคมฯ ที่ได้ปลอมแปลงเอกสาร

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดทางสมาคมฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยผู้ฝึกสอนคนดังกล่าว ก็ไม่ได้เป็นโค้ชของสมาคมฯ แต่เมื่อมีคำว่ากีฬาเทควันโดเข้ามาเกี่ยวข้อง ทางสมาคมฯ จึงต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหา พร้อมย้ำว่าสมาคมฯ ไม่มีนโยบายการรับเด็กฝากใดๆ ทั้งสิ้น ทุกคนที่เข้ามาสู่ทีมชาติไทย ต้องเข้ามาด้วยกระบวนการการคัดเลือกตัวและใช้ฝีมือของตัวเองทั้งหมด

ขณะที่ นางกานต์มณี ชำนาญกิจ ผู้เสียหาย ขอขอบคุณสมาคมกีฬาเทควันโดฯ ที่เข้ามาช่วยเหลือจนได้เงินคืน ในส่วนของผู้กระทำผิดก็ไม่ติดใจอะไร แต่อยากให้กลับตัวอย่าไปหลอกใครอีก ส่วนเรื่องคดีความก็จะไปถอนแจ้งความ ซึ่งหลังจากนี้จะหาที่ฝึกซ้อมแห่งใหม่ให้กับลูกชายต่อไป และขอเตือนเพื่อนผู้ปกครองนักกีฬาทุกชนิดว่า เงินไม่สามารถทำให้บุตรหลานติดทีมชาติได้ ทุกอย่างต้องใช้ฝีมือล้วนๆ

ส่วนผู้ฝึกสอนกีฬาเทควันโดคนดังดล่าว ได้ยอมรับผิดทุกอย่างและนำกระเช้าขอโทษสมาคมฯ และผู้เสียหาย พร้อมคืนเงิน 80,000 บาท ที่เอาไป และจะกลับตัวเป็นคนดีไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก