การแข่งขันกอล์ฟรายการ วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ เมเจอร์ที่ 3 ของปีสำหรับฝ่ายหญิง ชิงเงินรางวัลรวม 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 320 ล้านบาท) ที่สนามคอนเกรสชันแนล คันทรี คลับ, บลู คอร์ส ระยะ 6,831 หลา พาร์ 72 เมืองบีเธสดา รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา หลังจบรอบสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ชุน อิน กี โปรสาวชาวเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้นำหลังจบรอบ 3 และออกสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยการนำอยู่ 3 สโตรกนั้น ฟอร์มหลุดหวดเกิน 3 โอเวอร์พาร์ 75 เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน แต่ยังดีพอที่จะคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 283

ชุน อิน กี

สำหรับแชมป์รายการนี้ ถือเป็นแชมป์แรกของเจ้าตัวในรอบเกือบ 4 ปี และเป็นแชมป์รายการที่ 4 ในระดับแอลพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นแชมป์เมเจอร์ถึง 3 รายการ โดยก่อนหน้านี้เธอเคยได้แขมป์ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น 2015 และ เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ 2016 นอกจากนี้ โปรสาววัย 27 ปี ซึ่งเป็นนักกอล์ฟเกาหลีใต้คนแรกที่ได้แชมป์เมเจอร์ต่อจาก คิม เอ ลิม ที่ได้แชมป์ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น เมื่อปี 2020 นั้น ยังรับเงินรางวัลแชมป์เข้ากระเป๋าไปถึง 1.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 48 ล้านบาท) เลยทีเดียว

ด้าน เลกซี ธอมป์สัน จากสหรัฐ มีลุ้นแชมป์ในรอบสุดท้าย แต่ไปพลาดออกโบกี้ถึง 2 จาก 3 หลุมสุดท้าย ส่งผลให้จบรอบด้วยสกอร์ 1 โอเวอร์พาร์ 73 สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 284 จบเป็นอันดับ 2 ร่วมกับ อี มินจี จากออสเตรเลีย แพ้แชมป์ไปแค่สโตรกเดียวเท่านั้น ด้าน “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟสาวไทย วันสุดท้ายหวดอีเวนพาร์ 72 จากการทำ 3 เบอร์ดี้เสีย 3 โบกี้ สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 285 จบเป็นอันดับ 4 แพ้แชมป์ไปแค่ 2 สโตรกเท่านั้น

“โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล

ส่วนผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่น ๆ “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ สกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 292 จบเป็นอันดับ 30 ร่วม ขณะที่ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล และ “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ สกอร์รวม 9 โอเวอร์พาร์ 297 เท่ากัน จบเป็นอันดับ 54 ร่วม

เครดิตภาพ : REUTERS, Getty Images