นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ผลดำเนินการในรอบ 1 ปีนับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อ 1 ก.ค.ปีที่แล้ว สามารผลักดันการเป็นธนาคารเพื่อสังคม ช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจไปได้ 30 โครงการ เข้าถึงลูกค้ากว่า 9 ล้านราย ประกอบด้วย การช่วยเสริมสภาพคล่องแก่ผู้มีรายได้น้อยและเอสเอ็มอี 3.2 ล้านราย เช่น สินเชื่อฉุกเฉิน สินเชื่อสู้ภัยโควิด และให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อได้ 162,000 ล้านบาท  นอกจากนี้ยังผ่อนปรนการชำระหนี้ด้วยการปรับลด พักเงินต้นและดอกเบี้ย ช่วยเหลือลูกค้า ป้องกันไม่ให้กลายเป็นหนี้เสียกว่า 3 ล้านคน เช่น กลุ่มร้านอาหารและโรงแรม  แก้หนี้ครู ลูกค้ารายย่อย 7 แสนราย 

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมทุนเปิดตัวธุรกิจจำนำทะเบียนรถ  บจ. เงินสดทันใจ เพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อยที่ใช้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ให้เสียดอกเบี้ยถูกลงจาก 24- 28% ลดลงเหลือ 16-18% ทำให้ประชาชนผู้ใช้สินเชื่อนี้กว่า 3.5 ล้านคน ได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยต้นทุนที่ถูกลงและเป็นธรรมมากขึ้น

นายวิทัย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานธนาคารได้เน้นบทบาทการเป็นธนาคารเพื่อสังคม โดยสร้างกำไรในระดับที่เหมาะสม และนำกำไรส่วนหนึ่งจากการประกอบธุรกิจไปช่วยเหลือสังคมมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันยังรักษาสถานะธนาคารให้มีความแข็งแกร่ง โดยผลประกอบการรอบ 6 เดือนจนสิ้นสุด 30 มิ.ย.64 ธนาคารออมสิน มีสินทรัพย์รวม 2.86 ล้านล้านบาท มีเงินฝาก 2.45 ล้านล้านบาท และสินเชื่อรวม 2.19 ล้านล้านบาท โดยจัดเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ใน 5 อันดับแรกของธนาคารทั้งระบบ

นอกจากนี้ ท่ามกลางวิกฤติที่สถาบันการเงินต่างระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ จนประชาชนและภาคธุรกิจขาดสภาพคล่อง  ออมสินได้เข้าไปเร่งปล่อยสินเชื่อให้อย่างเต็มที่ โดย 6 เดือนแรกปีนี้สามารถอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบแล้วกว่า 270,000 ล้านบาท และสามารถบริหารจัดการหนี้เสียอยู่ในระดับไม่เกิน 2% รวมถึงเพิ่มการกันสำรองส่วนเกิน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งอีกกว่า 32,000 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพมีมากถึง 205.15%