ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารที่ทำการสำนักงานนิคมสหกรณ์ชะแวะ ต.พลงตาเอี่ยม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง นางสุวรรณี อาจสุโพธิ์ สหกรณ์จังหวัดระยอง นายทรงสรรค์ อุนะพำนัก ผอ.นิคมสหกรณ์ชะแวะ นายสันติ ขจรเวชไพศาล ประธานกรรมการสหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด นายคนึง เอกจีน ประธานกรรมการสหกรณ์นิคมวังไทร จำกัด ร่วมมอบเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินให้กับสมาชิกนิคมสหกรณ์ชะแวะ 100 ราย ผู้ที่ได้รับหนังสือเอกสารสิทธิทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวแล้ว สามารถนำไปขอออกเป็นโฉนดที่ดินได้ต่อไป

นายทรงสรรค์ กล่าวว่า นิคมสหกรณ์ชะแวะ เดิมเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2528 ได้มีการเพิกถอนสภาพป่าสงวนแห่งชาติแล้วประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์ พ.ศ.2528 มีเนื้อที่ประมาณ 323,157 ไร่ โดยมีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอของ จ.ระยอง ตามเขตการปกครอง ได้แก่ อ.วังจันทร์ อ.บ้านค่าย อ.ปลวกแดง อ.เมืองระยอง อ.แกลง และมีพื้นที่ครอบคลุมเข้าไปจังหวัดชลบุรีบางส่วน โดยมีพื้นที่จัดสรรได้ จำนวน 224,743 ไร่ พื้นที่จัดสรรไม่ได้ หรือพื้นที่ป่าส่วนกลาง ประมาณ 98,414 ไร่ ซึ่งการจัดที่ดินในรูปแบบนิคมสหกรณ์ เป็นการออกเอกสารสิทธิในที่ดินให้กับสมาชิกนิคมสหกรณ์

โดยมีเอกสารสิทธิที่ดินเป็น 2 รูปแบบ คือ หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์ หรือ กสน.3 เป็นเอกสารสิทธิขั้นต้นที่อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์จะออกให้กับบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกเป็นสมาชิกนิคมสหกรณ์ และหนังสือแสดงการทำประโยชน์ หรือ กสน.5 เป็นเอกสารสิทธิต่อมาที่อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์จะออกให้กับผู้ที่ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์ หรือ กสน.3 ที่เป็นสมาชิกนิคมสหกรณ์เป็นเวลาเกินกว่า 5 ปี ทั้งได้ชำระเงินช่วยทุนที่รัฐบาลและชำระหนี้เกี่ยวกับกิจการของนิคมสหกรณ์ให้แก่ทางราชการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ที่ได้รับหนังสือแสดงการทำประโยชน์แล้ว สามารถนำไปขอให้ออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินนั้นตามประมวลกฎหมายที่ดินได้

ทั้งนี้ภายใน 5 ปีนับแต่วันที่ได้รับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน ผู้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน จะโอนที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นไม่ได้ นอกจากการตกทอดโดยทางมรดกหรือโอนไปยังสหกรณ์ที่ตนเป็นสมาชิกอยู่เท่านั้น