เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการชุมนุมคาร์ม็อบ ของกลุ่มการเมืองต่างๆ พร้อมกันหลายจังหวัดทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองรูปแบบใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์โควิด – 19 ซึ่งรูปแบบของคาร์ม็อบอาจเป็นการป้องกันตัวเองด้วย อย่างไรก็ตาม แม้การแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่การออกมาเคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้ แม้มีการรักษาระยะห่าง แต่ก็มีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้อง จึงอาจเป็นการกระทำผิดกฎหมายได้และการที่แกนนำผู้ชุมนุมประเมินว่า ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของรัฐบาล เป็นช่วงที่รัฐบาลอ่อนแอที่สุด การออกมาเคลื่อนไหวตอนนี้จะทำให้มีแนวร่วมมากขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมนั้น ตนในฐานะส.ส. เห็นว่าทุกอย่างมีกติกาอยู่แล้ว คือ 1.หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ก็ตัดสินใจลาออก และ 2.ยุบสภา ดังนั้น วันนี้เราต้องให้ความเป็นธรรมรัฐบาลด้วย เพราะรัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหาให้ประชาชน วันนี้ถ้าพรรคภูมิใจไทยลาออก เท่ากับเราทิ้งปัญหาตัดช่องน้อยแต่พอตัว เพื่อเอากระแสความนิยมของคนส่วนหนึ่ง ถามว่าความเป็นพรรคการเมืองวันนี้ ก็ยังมีคนอีกกลุ่มที่ไม่ได้เห็นด้วยว่าจะต้องลาออก
“ในฐานะส.ส. พวกเราพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่านายกฯ จะลาออกหรือยุบสภา แต่กรณียุบสภา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ถ้าจัดการเลือกตั้งไม่ได้ใครจะรับผิดชอบ พรรคภูมิใจไทยไม่กังวล เพราะนักการเมืองทุกคนต้องพร้อมทำตามกติกา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ ไม่ว่าจะลาออกหรือยุบสภา เพราะเป็นสิทธิ์ของท่าน ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยต้องพิสูจน์ว่าถ้าเราทิ้งรัฐบาลในวิกฤตนี้ ถามว่าประชาชนจะให้โอกาสเราได้กลับมาอีกหรือไม่ เพราะเหมือนว่าเราทิ้งเพื่อน และทิ้งประชาชน ทิ้งชาวบ้าน ทิ้งผู้ป่วยที่กำลังติดโควิด – 19 เพื่อเอาความนิยมจากประชาชนส่วนหนึ่ง” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว
เมื่อถามว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่ลาออกจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงหรือถูกกดดันหนักกว่าเดิมหรือไม่ นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า การขับเคลื่อนของกลุ่มการเมืองต่างๆในอดีต มีบทเรียนให้เห็นแล้วว่า หากทำอะไรที่ผิดกฎหมายย่อมไม่ได้รับการยกเว้น จะต้องถูกดำเนินคดีไม่ช้าก็เร็ว