@หลังการ “ถล่ม” โรงพักตำรวจน้ำที่ ต.ตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดย “กองกำลังติดอาวุธ” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน “บีอาร์เอ็น” เหตุความรุนแรงยังไม่ “ยุติ” มีการวางระเบิดเพื่อ “สังหาร” ชุดคุ้มครองครู ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยการประกอบ “ระเบิดแสวงเครื่อง” ใส่ใน “หลักกิโลเมตร” ริมถนน โชคดีที่เป็น “ฝีมือ” ของ “แนวร่วม” ที่เป็นมือใหม่หัดขับ “ระเบิดจึงมีแต่เสียงบึ้ม” แต่ เจ้าหน้าที่ “ปลอดภัย” …. ในที่เกิดเหตุพบ “ใบปลิวพูโล 5จี” แต่ ผู้ก่อเหตุเป็น “แนวร่วม” ของ “บีอาร์เอ็น” เรื่องความ “สับสน” และ “ซ่อนเงื่อน” ของสถานการณ์ “ไฟใต้” ยิ่งนานยิ่งมีความ “ซับซ้อน” ในขณะที่ “หน่วยข่าว” แต่ละหน่วยงานต่าง “แบะๆๆ” กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และล่าสุด “ระเบิดแสวงเครื่อง” ก็ “ถล่ม” จุดตรวจ “บาโงยซิแน” อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อเป็นการสร้างความ “ต่อเนื่อง” หลังจากนี้ก็จะเป็นการก่อเหตุในพื้นที่ จ.ปัตตานี และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา นี่เป็น “สูตรสำเร็จ” ของ “บีอาร์เอ็น” เป็น “วงรอบ” การก่อการร้าย ที่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ที่ “แปลก” ก็คือ ขนาด “ยุทธวิธี” ของ “บีอาร์เอ็น” ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าก็ “ตามไม่ทัน” และ “ป้องกันไม่ได้” เรื่องนี้จะไปโทษ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ พล.ท.ธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 ฝ่ายเดียวคงไม่แฟร์ ต้องถามถึง ผบ.ฉก.แต่ละจังหวัด และ ผบ.ฉก.เลข 2 ตัว และ 3 ตัว ในพื้นที่ ว่าทำไม ทั้งงาน “การข่าว” และงาน “ป้องกัน” จึง “ล้มเหลว” อย่างต่อเนื่อง….

@ก็ใช่อย่างที่ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะ “พูดคุยสันติสุข” ฝ่ายไทย พูดว่า เหตุความรุนแรงไม่ได้ทำให้การ “พูดคุย” หยุดชะงัก เพราะถ้ามองให้เป็นเรื่องการ “แยกส่วน” ในการ “ทำหน้าที่” ก็หน้าที่ใคร หน้าที่มัน เพียงแต่คนที่ “สงสัย” เขาถามว่า เมื่อ “พูดคุย” แล้ว สถานการณ์ยังไม่ “สงบ” ผลของการ “พูดคุย” ตอบ “โจทย์” ตรงไหน เพราะ “เหตุผล” ที่ต้องให้มีการ “พูดคุย” มีเป้าหมายเดียวเท่านั้น คือต้องการให้ “แผ่นดินปลายด้ามขวาน” มีความ “สงบสุข”….แต่ เห็นด้วยนะ กับ ข้อเสนอของคน “ไทยพุทธ” ที่เสนอให้ “บีอาร์เอ็น” หยุด ปฏิบัติการ “รุนแรง” ในเดือน “เข้าพรรษา” เป็นเวลา 3 เดือน เช่นเดียวกับที่ “บีอาร์เอ็น” หยุด “ปฏิบัติการ” ในเดือน “รอมฎอน” เป็นเวลา 40 วัน เพราะทั้ง “รอมฎอน” และ “เข้าพรรษา” ต่างเป็นห้วงเวลาสำคัญของเรื่อง “ศาสนา” ถ้า “บีอาร์เอ็น” ทำได้ นั่นแหละถือการอยู่ร่วมกันได้ใน “สังคมพหุวัฒนธรรม” ที่แท้จริง และ “เค้าลาง” ของ “สันติสุข” จึงจะเกิดขึ้น ก็ต้องฝากความหวังที่ “ฝีมือ” ของ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะ “พูดคุยสันติสุข” และ “ฝีปาก” พล.ท.ธิรา แดหวา เลขานุการคณะ “พูดคุย” ว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่….

@ทำไมจะต้อง “ลาออก” ในเมื่อไม่ได้ “ทำผิด” ใช่ กรณีของ นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ที่ถูก “นักการเมือง” กลุ่มหนึ่งออกมา “กดดัน” ให้ลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย จากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุด ชี้มูลว่ามีความผิดในครั้งที่เป็น “นายก อบจ.สงขลา” ใน ม.157 ที่ไม่จ่ายในการ จัดซื้อรถ “ซ่อมบำรุงทาง” ที่ซื้อในครั้งที่ “อุทิศ ชูช่วย” เป็น นายก อบจ. สาเหตุที่ “ไม่จ่าย” เพราะ “นิพนธ์” ตรวจพบมี “พิรุธ” มีการ “ฮั้ว” กัน และสุดท้าย เมื่อมีการ “สืบสวน” และ “ตรวจสอบ” พบหลักฐานของการ “ฮั้ว” ที่ชัดเจน ทำให้ พนักงานสอบสวน สภ.สงขลา สั่งฟ้องในความคิดคดี “ฮั้วประมูล” และต่อมา ศาลอาญาทุจริตและประพฤตมิชอบ ภาค 9 อนุมัติ “หมายจับ” บริษัทคู่เทียบทั้ง 8 บริษัท ในการร่วมกัน “ทำผิด” และ “อัยการสูงสุด” สั่งไม่ฟ้องคดีที่ “นิพนธ์” ถูก กล่าวหาจาก บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ผู้ชนะการประมูล ที่เป็นโจทก์ฟ้อง เพราะ ป.ป.ช.ไม่สามารถชี้แจง สำนวนฟ้องที่มาสมบูรณ์ถึง 16 ประเด็น นี่เป็น “สาเหตุ” สำคัญ ที่ “อัยการสูงสุด” เห็นว่า เป็นการทำ “สำนวนฟ้อง” ที่ไม่สมบูรณ์ และได้มีการ “สั่งไม่ฟ้อง” แต่วันนี้ ป.ป.ช. ก็ดึงดันในการฟ้องคดีด้วยตนเอง ทั้งที่ “อัยการสูงสุด” มีความเห็นว่า เป็นสำนวนที่สมบูรณ์จากต้นจนจบ สรุปได้ว่า รมช.นิพนธ์ บุญญามณี ไม่จ่ายเงินให้กับบริษัทดังกล่าว เพราะพบมีการ “ฮั้วประมูล” ตั้งแต่ต้น การ “ไม่จ่าย” จึงเป็นการ รักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน ต้องมี “ความชอบ” ไม่ใช่ “มีความผิด” และถ้า กรณีของ “นิพนธ์” มีความผิด ต่อไปจะมีนักการเมืองหน้าไหน ที่จะ “เสี่ยง” ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ…

@เรื่องของ รมช.นิพนธ์ จึงนำไปเปรียบกับเรื่องการ “บุกรุกที่ดิน” ของ อดีต ส.ส.ราชบุนรี และของ รมช.ศึกษาธิการ ไม่ได้ ดังนั้น นักการเมือง ที่ออกมา “กดดัน” ให้ นิพนธ์ บุญญามณี ลาออก จากกรณี “ปกป้องภาษีของแผ่นดิน” จึงเป็นเรื่องของการ “ฉวยโอกาส” ในการ “เล่นการเมือง” ในระหว่างที่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลัง “ซวนเซ” จากการบริหารราชการแผ่นดินที่ “ล้มเหลว”…และที่น่าเป็นห่วง เมื่อ “ศาลปกครองสูงสุด” สั่งให้ อบจ.สงขลา จ่ายเงินทั้งหมด 80 ล้านบาทให้กับ “คนทำผิด” ซึ่งตามกฎหมายต้องจ่ายภายใน 60 วัน สุดท้ายเมื่อคนเหล่านี้ถูกฟ้องใน “คดีฮั้ว” และมีความผิดจริง เงินจำนวน 80 กว่าล้าน ที่มาจากภาษีของประชาชน ที่ อบจ.สงขลา จ่ายไป ใครจะรับผิดชอบว่า จะสามารถฟ้องเพื่อเรียกคืนมาได้…ทั้งหมดที่เรื่องนี้กลายเป็นคดีที่ “อลเวง” เป็นเพราะ หน่วยงานต่างๆ ที่ทำคดีเรื่องนี้ ต่างคนต่างทำ โดยไม่มีการ “หารือกัน” ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการ “หารือกัน” เพราะเป็น “เรื่องเดียวกัน” เรื่องทั้งหมดก็จะไม่ “อลเวง” และ อบจ.สงขลา ก็ไม่ต้องนำเงินภาษีของประชาชนไปจ่ายให้ “คนที่ทำผิดกฎหมาย” ใช่หรือไม่ และ คดีนี้ ควรจะเป็น “กรณีศึกษา” ทั้งฝ่าย “กฎหมาย” และฝ่าย “การเมือง” เพื่อนำไป “ถอดบทเรียน” ป้องกันมิให้เกิดขึ้นกับการ “จัดซื้อจัดจ้าง” ใน หน่วยงานราชการอื่นๆ และหากมีการสาวไปให้ลึกกว่านี้ กรณี นี้อาจจะเกิดขึ้นกับ หน่วยงานราชการอื่นๆ และมีการ “เสี่ยค่าโง่” ให้กับวิธีการ “ฮั้วประมูล” แบบนี้…

@ตอนที่เป็น “ยาเสพติด” ก็เรียกร้องให้เอาออกจาก “กฎหมายยาเสพติด” แต่พอเป็น “กัญชาเสรี” ก็มีการออกมาชี้ให้เห็นโทษทัณฑ์ ของ “กัญชา” และวันนี้ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ “กัญชาเสรี” กลายเป็นประเด็นทางการเมือง ที่ “องค์กรศาสนาอิสลาม” ไม่เห็นด้วย และผู้นำ “ศาสนา” และผู้นับถือ “ศาสนาอิสลาม” บางส่วน ออกมาคัดค้าน กลายเป็น “โจทย์ใหญ่” ทางการเมืองที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล รมว. “สาสุข” และหัวหน้าพรรค “ภูมิใจไทย” ต้องหาทางแก้ เพราะประเด็นนี้ ส่งผลต่อคะแนนเสียงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้…ส่วนตัวบุคคลที่ถูก “วิพากษ์วิจารณ์” อย่างหนัก ก็หนีไม่พ้น พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.บัญชีรายชื่อ “ภูมิใจไทย” ที่มี “บ้านเดิม” ที่ จ.ปัตตานี และ อับดุลบาซิ อาบู ส.ส.เขต 2 จ.ปัตตานี ซึ่งคงต้อง “เดินสาย” สร้างความเข้าใจกันพอสมควร แต่เชื่อน่าว่า “เหนื่อย” ….. และล่าสุด ดร.ขดดะรี เบ็นเซ็น นายกสมาคมสมาพันอิสลามภาคใต้ ก็ออกแถลงการณ์ “คัดค้าน” กัญชาเสรี โดยให้เหตุผลว่า ผิดทั้งหลัก “ศาสนา” และเป็นการเพิ่มปัญหาสังคม ทำลาย “เยาวชน” และเอื้อ “กลุ่มทุน” รวมทั้งสมาคมโรงเรียนสอนศาสนา ที่มีสมาชิก 400 โรงเรียน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ออก “แถลงการณ์” คัดค้าน กฎหมาย “กัญชาเสรี” เช่นเดียวกัน ดูแล้วเรื่อง “กัญชาเสรี” กลายเป็นประเด็น “ร้อนแรง” ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ “จบไม่ลง” อีกเรื่องหนึ่ง….ส่วนพรรคการเมืองที่ได้รับ “ปรบมือ” คือพรรค “ประชาชาติ” ที่ ส.ส.ทั้งหมด “ยกเว้นกำนันมะ” ที่ “คัดค้าน” กฎหมายเรื่อง “กัญชาเสรี” วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรค “ประชาชาติ” เดินถูกทาง ที่ยึดหลัก “ศาสนา” เป็นหลัก เพราะเรื่องของ “สิ่งเสพติด” ไม่ว่าเป็นเรื่องที่ถูก “กฎหมาย” หรือ “ผิดกฎหมาย” สำหรับ “อิสลาม” ล้วนเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ฮาลอม” ไม่สามารถทำให้เป็น “ฮาลาล” ได้ด้วยประการทั้งปวง….

@และเรื่อง “กัญชาเสรี”  ก็ไม่ได้จบแค่นี้ ล่าสุด รัฐบาล ประเทศมาเลเซีย สั่งการด่วน ให้เจ้าหน้าที่ ทุกด่าน ทุกแนวชายแดน ป้องกันการลักลอบ “นำเข้า” กัญชา จากประเทศไทย เพราะในประเทศมาเลเซีย “กัญชา” ยังเป็น “ยาเสพติด” ไม่เหมือนกับ “พืชกระท่อม” ที่เป็น “ยาสมุนไพร” และแน่นอน “กัญชา” พ่อค้ายังส่งออกไปขายยังต่างประเทศ ยังเป็น “ยาเสพติด” ที่มีราคาสูง ดังนั้นเรื่องของ “กัญชาเสรี” จึงเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เพราะยังมีปัญหาต่างๆ ตามมาอีกมากมาย เพื่อรอให้แก้….

@คดี “ฉาวโฉ่” เรื่องการขายรถ จยย.และรถยนต์ ที่เป็น “ของกลาง” ในคดี “ค้าพืชกระท่อม” ที่ สภ.สะท้อน อ.นาทวี จ.สงขลา ที่ พ.ต.อ.นิพนธ์ คงขวัญ ผกก.สภ.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อดีต ผกก.สภ.สะท้อน ออกมา “เปิดโปง” และ แจ้งจับอดีต “ลูกน้อง” ของตนเอง ที่ สภ.สะท้อน ในข้อหา “ขายของกลาง” ก็ถึงจุดจบ เมื่อ พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา สั่ง “พักราชการ” พ.ต.อ.นิพนธ์ คงขวัญ ผกก.สภ.ทุ่งตำเสา ในความผิดหลายข้อหาด้วยกัน และ พ.ต.อ.นิพนธ์ ก็รวบรวมหลักฐานฟ้อง “ศาลปกครอง” เพราะมั่นใจว่าตนเอง “ไม่ผิด” ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ “ยุติธรรม” แต่ที่แน่ๆ ถ้าจะเอาคนที่ร่วมกันทำผิดในเรื่องนี้มาลงโทษอย่าง “ยุติธรรม” จะต้องมี “คนทำผิด” ตั้งแต่ พ.ต.อ.จนถึง “นายสิบ” ไม่ต่ำกว่า 10 คน เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ พล.ต.ท.นันเดช ย้อยนวล จะมาเป็น ผบช.ภ.9 ดังนั้นจึงไม่ต้องเกรงการ “ลูบหน้าปะจมูก” ดังนั้น คดี “ฉาวโฉ่” ของ สภ.สะท้อน อ.นาทวี จ.สงขลา จึงควรเป็น “คดีตัวอย่าง” ที่ ผบช.ภ.9 ต้อง “จัดการ” ให้ “ถูกต้อง” และ “ยุติธรรม”

@ส่วนคดีโกงเงิน “สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจังหวัดพัทลุง” กว่า 1,400 ล้านบาท ล่าสุด ศาล “ออกหมายจับ” เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 คน ซึ่งที่เข้ามอบตัวแล้ว ส่วนใหญ่เป็น “เจ้าหน้าที่” ของสหกรณ์ ที่ยังทำหน้าที่อยู่ ส่วน “เจ้าหน้าที่” ซึ่งพ้นตำแหน่งไปแล้วจะ “ติดร่างแห” ด้วยหรือไม่ ต้องคอยดูกันต่อไป แต่อย่างน้อย “คดี” ก็จะได้มีความ “คืบหน้า” หลังจากที่ถูกปล่อยให้ “คาราคาซัง” มานาน ก็ต้องยก “ความชอบ” ให้กับ “โจ๊กหวานเจี๊ยบ” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. (สส. 5) ที่เป็นผู้ “สั่งการ” ในเรื่องนี้….

@วันที่ “โควิด” เริ่ม “เป็นศูนย์” อบายมุขมากมาย ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ที่ จ.ตรัง “บ่อนการพนัน” ไม่น้อยกว่า 5 แห่ง ที่เป็น “บ่อนใหญ่” ส่วนที่เมืองที่มี “ชายแดน” ติดกัน วันนี้ก็มี “บ่อนใหญ่ๆ” เปิดเล่น “ได้เสีย” อยู่ 3 บ่อน มิน่า “นักบิน” จาก “ส่วนกลาง” จึงร่อนไปร่อนมา พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง และ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ระวังให้ดี เพราะอาจจะมี “มือดี” จาก หน่วยอื่นๆ เข้ามา “ทำงาน” แล้วจะได้ไม่คุ้มเสีย….เช่นเดียวกับที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สถานบันเทิง ในเขตของ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ ที่ขออนุญาต เปิดเป็น “ร้านอาหาร” ต่างเล่นดนตรี มีนักร้อง และที่สำคัญ ปิดกันตอน “ตีสี่ครึ่ง” ผิดถูกอย่างไร พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.คอหงส์ ต้องตามลูกน้อง เพราะเห็นมี “หมาต๋า” คุมอยู่ทุกแห่ง และขอฝากให้ ฝ่าย “ปกครอง” ให้ความ “ใส่ใจ” ในเรื่องนี้ด้วยอย่าง เป็น “รอยช้อนตามเปียก” เพื่อรับผลประโยชน์โดยไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย เหมือนกับ “บ้านเมือง” ไม่มี “ขื่อแป” อย่างที่เป็น….ส่วนที่ “ด่านนอก” เมือง “ชายแดน” ไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา “สายสืบ” รายงานว่า หลังจากที่ “20 ตำรวจ” โดยร้องเรียนเรื่อง “เก็บส่วย” วันนี้ “ด่านนอก” เป็นเมืองที่ “สะดวก-สบาย” สำหรับการทำผิด “กฎหมาย” ที่น่าห่วงคือเรื่อง “ยาเสพติด” ที่กำลัง “เกลื่อนเมือง” พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าสุวรรณ ผกก.สภ.สะเดา จ.สงขลา “สั่งการ” ให้ “ลูกน้อง” เอาจริงกับปัญหาบ้านเมืองด้วย….

@ยุค “แพงทั้งแผ่นดิน” คนไม่มีงานทำ เพราะ เศรษฐกิจ “ทรุดโทรม” โจรขโมย “เต็มแผ่นดิน” ชาวบ้านย่านตลาด “นาโยง” อ.นาโยง จ.ตรัง เดือดร้อน จากการ “อาละวาด” ของ “ขโมยขโจร” ต้องซื้อกล้อง “วงจรปิด” กันโจร เห็นภาพโจรชัดแจ๋ว แต่ตำรวจ สภ.นาโยง ยัง “งุ่มง่าม” จับใครมาลงโทษไม่ได้ ก็ฝากถึง พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง อีกครั้งให้ “ไขลาน” ลูกน้องด้วย เมื่อ “สายสืบโรงพัก” ทำงานไม่ได้เรื่อง ก็ส่ง “สายสืบจังหวัด” มาดูบ้างก็ได้….ที่ทำดีก็ต้องกล่าวถึง สมศักดิ์ เรืองอุดมโชคชัย รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยยอด จ.ตรัง  สั่งการให้ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ให้บริการแก่ประชาชนที่นำ “แมว-หมา” มาฉีด “วัคซีน” เพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เป็นการช่วยชาวบ้านที่ “รักสัตว์” ไม่ต้องไปจ่ายตังค์แพงๆ ให้กับ “คลินิกสัตว์” ของเอกชน….

@เรื่อง ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ยัง “พุ่งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่” จาก “สงคราม” ระหว่าง “รัสเซีย-ยูเครน” ที่นอกจาก ประชาชน จะเดือดร้อนทุก “หย่อมหญ้า” แล้ว ยังทำให้ กองทุนน้ำมัน ของรัฐบาล “ติดลบ” และเป็นปัญหา “ดินพอกหางหมู” ที่ หาทางออกไม่ได้ ที่นี่ เคยเสนอ “ทางออก” ให้กับ “รัฐบาล” ให้มีการ “ผ่าตัด” โครงสร้างของ “น้ำมันเชื้อเพลิง” โดยเฉพาะเรื่องของ “ค่าการกลั่น” มาหลายต่อหลายครั้ง เพราะเห็นถึงการ “ซ่อนเงื่อน” ของราคาน้ำมันอยู่ตรงนั้น ล่าสุด หัวหน้าพรรคกล้า กรณ์ จาติกวณิช ออกมา “ชี้ชัด” ถึงการ “หมกเม็ด” ของค่าการกลั่น ที่มีการขึ้นไปถึง 10 เท่า โดยไร้เหตุผล รวมทั้งนำน้ำมันใน “สต๊อก” ที่ซื้อในราคาถูกมา “ขายแพง” นี่เป็นการ “ค้ากำไร” เกินควร ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ รัฐมนตรีพลังงาน ต้องรีบตัดสินใจ ก่อนที่ปัญหา “เศรษฐกิจ” และ “ปากท้อง” จะเดินไปสู่ “หลุมดำ”…และสุดท้าย เชื่อเถอะ สงคราม ระหว่าง “รัสเซีย-ยูเครน” ต้องลุกลามไปยังประเทศในกลุ่ม “นาโต” และ “เอเชีย” “รัฐบาล” ต้อง ปล่อยให้ราคาน้ำมัน “สะท้อน” ข้อเท็จจริง เพราะ “แบกรับ” ไม่ไหว ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่าใช้วิธีการ “ซื้อเวลา” ต้องตัดสินใจ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตาม “กลไก” ของ “ตลาด” โดยการ เลือกช่วยกลุ่ม “เปราะบาง” กลุ่มที่ช่วยตนเองไม่ได้ ไม่ใช่การใช้ “เงินกู้” มา “อุ้ม” คนใช้น้ำมันทั้งประเทศ เพราะนี่คือหนทางในการนำประเทศไปสู่ความ “หายนะ” ทั้งระบบ….

@ถามมาจากผู้ติดตามข่าวเรื่อง 20 ตำรวจ ที่ถูก “ชมรมนักธุรกิจบันเทิง” บ้าน “ด่านนอก” ตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา กล่าวว่า “ตั้งแก๊ง” เพื่อ “เก็บส่วย” จากธุรกิจบันเทิง ในเมืองชายแดนแห่งนี้ ว่า หลังจากมีการร้องเรียนไปยัง เจษฎา จิตรัตน์ ผวจ. สงขลา และ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา แล้ว ทำไม่เรื่องจึง “เงียบฉี่” และแม้แต่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ที่จะได้รับการ “สั่งการ” จาก ผบ.ทุกเรื่อง ในภาคใต้ ก็ “เงียบกริบ” เหมือนกัน ตกลงเรื่องนี้เป็นเพียง “ปาหี่” หรือเป็นเรื่อง “ปกติ” ที่ “ไม่มีอะไรในกอไผ่” สำหรับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างที่เขาว่ากัน….ชาว “ไทยพุทธ” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ “หลายกลุ่ม” ออกมา “เคลื่อนไหว” เพื่อ “ทวงถาม” ความ “ชอบธรรม” ของการที่คนกลุ่มหนึ่ง ที่มี “นักการเมือง” อยู่ เบื้องหลัง “คัดค้าน” คำสั่งของ “กรมการปกครอง” ไม่ให้ วิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ อดีตนายอำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส ไปรับตำแหน่งนายอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส หลังจากที่ “กรมการปกครอง” สอบสวนในข้อหาที่ถูก “ร้องเรียน” ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ “อดีตนายกอำเภอรือเสาะ” เป็น “ปรปักษ์” กับคน “มุสลิม” ในพื้นที่ ข่าวว่า “กรมการปกครอง” ที่มี สุทธิพงศ์ จุลเจริญ เป็น “อธิบดี” คิดแก้ปัญหาง่าย ด้วยการเตรียมเซ็นคำสั่งใหม่ ย้ายนายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ ไปเป็น นายอำเภอบางขัน จ.นครศรีธรรมราช ถามว่า วิธีการแก้ปัญหาอย่างนี้ เป็นความ “ชอบธรรม” หรือไม่ เพราะนอกจากเป็นการ “ทำลายขวัญ” ของ “ข้าราชการ” แล้ว ยังเป็นสร้างความ “แตกแยก” ที่เป็นเหมือนการ “ตอกลิ่ม” ระหว่าง สังคมของ “คนพุทธ-มุสลิม” ให้มีความ “แตกแยก” มากยิ่งขึ้น และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย อย่า “ลอยตัว” กับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะนี่เป็นปัญหาของ “ไฟใต้” ที่เป็น “ไฟในใจ” ที่เมื่อ “จุดติด” ยากที่จะดับ….

@เช่นเดียวกับเรื่องของ “โรงเรียนอนุบาลปัตตานี” ที่ กลุ่ม “มุสลิม” ยื่นหนังสือถึง นิพันธ์ บุญหลวง ผวจ.ปัตตานี ให้ย้าย “ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาล” ออกจากพื้นที่ เพราะ “ปฏิบัติตาม” ระเบียบของ “โรงเรียน” ที่ให้นักเรียนทุกคนแต่งกายตามระเบียบของโรงเรียน เรื่องนี่ก็เป็น “ไฟร้อน” อีก “กองหนึ่ง” ของ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ กระทรวงศึกษาธิการ “นิ่งเฉย” ไม่ได้…หลายคนถามถึง “บทบาท” ของ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องของ “กรมการปกครอง” และเรื่อง “โรงเรียนอนุบาลปัตตานี” ก็ตอบให้ “รับรู้” ว่า ณ วันนี้ “อำนาจ-หน้าที่” ของ ศอ.บต. ถูก “ตัดทอน” จนกลายเป็น “ยักษ์ที่ไม่มีกระบอง” ไม่ใช่ไม่ต้องการทำ แต่บางเรื่อง “ศอ.บต.” ทำไม่ได้เหมือนในอดีต เชื่อว่า พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. และ “คนทำงาน” ใน ศอ.บต. ก็ “อึดอัด” ที่แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแบบ “ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย”….

@เป็นนายตำรวจที่เป็น “ไทยพุทธ” ที่ได้รับคำ “ชื่นชม” จากผู้นำ “มุสลิม” และชาวมุสลิม อย่างถ้วนหน้า คือ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ทั้งในเรื่องการรักษาความสงบ การปราบปรามยาเสพติด และงานมวลชนสัมพันธ์ “แบบอย่าง” ในการ “บริหารงาน บริหารคน” และเข้าถึง “มวลชน” น่าจะใช้เป็น “ต้นแบบ” ของการแก้ปัญหาในจังหวัดอื่นๆ….นี่ก็เป็น “นักปกครอง” อีกคน ที่ ได้รับความ “ชื่นชม” จากผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และประชาชน คือ ภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เสียดายที่มีโอกาสเป็น “พ่อเมือง” แค่ปีเดียว….ส่วน สนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้มี “อายุราชการ” อีกหลายปี เป็นอีก “ดาวรุ่ง” ของ “กรมการปกครอง” ที่ “หนักเอาเบาสู้” หวังว่า จะได้เป็น “ผู้ว่าฯ” ที่ จ.นราธิวาส อย่างน้อย 2 ปี เพราะผลงานที่ผ่านมา ประชาชนพอใจ แต่.. นั่นแหละ “คนเก่งมักถูกนาย” และ “นักการเมือง” โยกย้าย เพื่อใช้เป็น “เครื่องมือ” ทาง “การเมือง” มากกว่า เพื่อทำประโยชน์ให้กับประชาชน…..แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้าครับ 

———————————————————

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

แขกเมือง… พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับ เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรับของที่ระลึก ณ ห้องรับรอง ศอ.บต. อ.เมือง จ.ยะลา

ร่วมพระราชทานเพลิง…   พ.ต.อ.ทวี สองส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการ พรรคประชาชาติ ทอดผ้าบังสุกุล ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระครูปิยวรคุณ (แดง เตชวโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดสิทธิสารประดิษฐ์ ณ เมรุชั่วคราววัดสิทธิสารประดิษฐ์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 

ที่ดินคืนชีวิต…   นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบโฉนดที่ดิน ให้ประชาชนที่รอคอยโฉนดที่ดินมากว่า 50 ปี ณ หอประชุมโรงเรียนศรีวารินทร์ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ท่ามกลางความดีใจของผู้ได้รับโฉนดที่ดินในครั้งนี้ 

ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ…   ขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ ถวายความจงรักภักดี และถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยมี ภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมในพิธี ณ ท่าเรือปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง 

กีฬาต้านยาเสพติด…   พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 และ ผศ.ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษก สำนักนายกฯ/กรรมการพิเศษผู้แทนพิเศษรัฐบาล เปิดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาต้านภัยยาเสพติด ครั้งที่ 21 ณ สนามกีฬาหน้าสถานีรถไฟลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 

หารือการจัดการศึกษา…   พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) หารือคณาจารย์สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ในแนวทางจัดการศึกษา ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมปฏิบัติการด้านการพัฒนา ชั้น 3 ศอ.บต. อ.เมือง.จ.ยะลา 

กำลังใจ…  ไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา เชิดเกียรติ เมธีลักษณ์ ที่ปรึกษา และคณะผู้บริหาร อบจ. มอบดอกไม้ให้กำลังใจ นิพนธ์ บุญญามณี ที่บ้านพัก อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อเป็นกำลังใจ จากกรณีการต่อสู้คดีกับกลุ่มฮั้วประมูล สมัยที่เป็น นายก อบจ.สงขลา 

ส่งไปฮัจย์…    สนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส และ สมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง เป็นประธานในพิธีส่งและอำนวยพร แก่พี่น้องชาวมุสลิม ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2565 ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ณ อาคารอเนกประสงค์ท่าอากาศยาน จ.นราธิวาส 

ศึกษาดูงาน …   ศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ให้การต้อนรับ ภพหล้า ปิยะปานันท์ ผอ.กองความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้และชนต่างวัฒนธรรม สภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะ ที่เดินทางมาศึกษาดูงาน การบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแเดนภาคใต้ ณ ห้องประชุม ศอ.บต. อ.เมือง จ.ยะลา 

ปิดการแข่งขัน…   ซูการ์โน มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ พร้อมด้วยทีมงาน ทำการปิดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน ในรายการ “มหกรรมการแข่งขันฟุตบอลภายในละแอ คัพ ครั้งที่ 1” ณ สนามกีฬาบ้านชะเมาะ หมู่ที่ 5 ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อให้กำลังใจนักกีฬาและสร้างความสามัคคี 

ควบคุมชายแดน…   พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ลงพื้นที่ฐานปฏิบัติการกองร้อย ชุดควบคุมป้องกันชายแดน ที่ 4 บ้านศรีพงัน ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เปิดการจัดกิจกรรมฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพชุดปฏิบัติการลาดตระเวนทางน้ำ ตามแนวลำน้ำชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยมีกำลังพลตำรวจ ทหาร ผู้เข้าการอบรมทั้งสิ้น จำนวน 50 นาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ความสามารถในการขับเรือยนต์ลาดตระเวนทางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ทุนยะลารักษ์ถิ่น…   มุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา พร้อมด้วย ท้องถิ่นจังหวัดยะลา รอง นายก อบจ.ยะลา สมาชิกสภา และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมมอบทุนการศึกษา แก่นักเรียน นักศึกษา ยากจนและผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ 8 อำเภอของจังหวัดยะลา จำนวน 30 ราย ตามโครงการทุนการศึกษายะลารักษ์ถิ่น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและการหลุดจากนอกระบบ ให้ได้รับโอกาสในการพัฒนาตนเองตามศักยภาพและเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ด้วยความเสมอภาค ณ ห้องประชุมศรีญาลอ อบจ.ยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา 

ตรวจเยี่ยม…  อมร ชุมช่วย นายอำเภอยะหา จังหวัดยะลา พร้อมด้วย จะเร ตุ้งแก้ว ปลัดอำเภองานป้องกัน และ ภูมิ์ธนพนธ์ กิจชุณหกาญจน์ ปลัดอำเภอยะหา ลงพื้นที่ป้อม ชรบ. หมู่ที่ 3 บ้านกือยา ตำบลละแอ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพร้อมมอบของอุปโภคบริโภคให้กับ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ในพื้นที่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป 

มอบโฉนดที่ดิน…   สรรเพชญ บุญญามณี ผู้ช่วยดำเนินงานประธานสภาผู้แทนราษฎร (ชวน หลีกภัย) ได้ร่วมกับ สุจิตร สุขสว่าง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สุภาพร เกตุสุริยงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา นิคม อุไรรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งหวัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อมอบโฉนดที่ดินให้แก่วัดเขาราม ตำบลทุ่งหวัง เพื่อจะได้ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป 

ตีทะเบียนโอรังอัสรี…    ซูปียัน แดเมาะเล็ง นายอำเภอจะแนะ จ.นราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทหารพราน จากกรมทหารพรานที่ 47 เดินทางไปยังที่พักอาศัยกลางป่าลึกของกลุ่มชาติพันธุ์ โอรังอัสรี เพื่อทำทะเบียนบุคคล เพื่อเข้าถึงสวัสดิการรัฐ 

พัฒนาประสิทธิภาพ…  โยธิน ทองเนื้อแข็ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เขตอำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา ร่วมโครงการอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคใต้ ณ ห้องประชุมวิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี  

เตรียมงาน…    ชยุต  ขุนรักษาพล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสทิงพระ จ.สงขลา ดร.ตรัยภูมินทร์  ตรีตรีศวร รองนายกเทศมนตรี  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก อบจ.สงขลา ลงพื้นที่บริเวณหาดมหาราช เพื่อเตรียมจัดกิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติด ในวันที่ 26 มิถุนายน 2565 ณ หาดมหาราช อ.สทิงพระ จ.สงขลา