เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ในการปฏิบัติหน้าที่ ไอโอซีเมมเบอร์ ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แล้ว

ตลอดเวลาในการทำงาน ได้เข้าร่วมประชุมกับ โธมัส บาค ประธานไอโอซี และทีมงานผู้บริหาร อย่างต่อเนื่อง
และติดตามงาน ทั้งในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ วัฒนธรรม และมรดกโอลิมปิก และเป็นคณะกรรมาธิการ กองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ได้พบกับประธานสหพันธ์กีฬานานาชาติ บุคคลสำคัญในวงการกีฬาโลก อยู่ตลอดเวลา

โดยเฉพาะกับสหพันธ์กีฬาต่างๆ ที่นายกสมาคมของแต่ละประเภทฝากมาให้ช่วย ผู้บริหารสหพันธ์กีฬาบางท่าน จะไม่รู้จักผู้บริหารสมาคมกีฬาไทยดี ปัทมา จึงพยายามดึงให้พวกเขาหันมาสนใจประเทศไทยบ้าง พยายามเชื่อมความสัมพันธ์ เชื่อมโยงการดำเนินงานในด้านต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยของเรามากที่สุด

นอกจากเวลาดังกล่าว ในแต่ละวัน ได้เดินทางไปให้กำลังใจนักกีฬาไทย ในชนิดกีฬาต่างๆ นอกจาก เทควันโด ที่ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คว้าเหรียญทองแรกในโตเกียวเกมส์ ให้ทัพไทยเป็นเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ของกีฬาเทควันโด

ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ยังไปเกาะติดขอบสนาม เชียร์นักกีฬาของเราในอีกหลายประเภท ทั้งแบดมินตัน มวยสากล และกำลังดูว่าจะไปเชียร์กีฬาอะไรอีก ที่มีความหวังและที่ลำบากบางครั้ง ต้องวิ่งประชุม แต่ละแห่ง มันคนละที่ และเดินทางไปสนามแข่งแต่ละทีก็ไกลกัน

ที่ดีใจและได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับนักแบดมินตันไทย ทั้ง “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “น้องครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ ในฐานะที่เป็นนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ด้วยการประสานเรื่องชุดแข่งขัน ให้แบบปัจจุบันทันด่วน ใน 7 ชม. ในช่วงดึกก่อนที่นักกีฬาจะลงสนามในช่วงเช้า

กรณีนี้เข้าใจเลยว่าประสานสิบทิศคืออะไร เพราะเวลาจะแก้ไขอะไรในโอลิมปิกเกมส์นั้นไม่ง่ายเลย ยิ่งในประเทศญี่ปุ่น จะไม่ยอมให้ขยับอะไรในสิ่งที่พวกเขาวางไว้แล้ว หลังจากเจ้าของ yonex ยินยอมให้ใช้เสื้อเขาแล้วโดยไม่ใส่คำว่า yonex เขาบอกว่าปัทมา จะให้ทำเสื้อแบบไหนก็ไปอธิบายให้ลูกน้องเขาเข้าใจเอง เขาบอกเปิดไฟเขียวแล้ว บอกลูกน้องเอา ธงชาติไทย เย็บปะทับ yonex ก็จบ เขาไม่เคยทำ อะไรที่นอกตำรา ไปไม่ถูกหรือง่วงนอน ปล้ำจนเกือบสว่าง

สำหรับในเรื่องนี้ ต้องขอขอบคุณสหพันธ์แบดมินตันโลก กกท. โอลิมปิคไทย คณะกรรมการจัดงานโตเกียวเกมส์ 2020 แกรนด์สปอร์ต และโยเน็กซ์ ไว้ในโอกาสนี้ โดยเฉพาะคุณธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ที่ทุกฝ่ายไม่ปฏิเสธคำขอของปัทมาอีกครั้ง ที่เข้าใจปัทมา และเข้าใจนักกีฬา โค้ชเป็นอย่างดี แม้นักกีฬา ปัทมาจะเคยตอบแบบสุภาพว่าเสื้อผ้าไม่ใช่ส่วนสำคัญที่สุด เรื่องสำคัญต้องฝึกซ้อมหนัก แต่ครั้งนี้ทุกคนเห็นแล้วก็เข้าใจ

ส่วนภารกิจหน้าที่อีกอย่างของไอโอซีเมมเบอร์ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ปัทมา พร้อมท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และท่านสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้เข้าพบ โธมัส บาค ประธานไอโอซี เพื่อหารือและแสดงความตั้งใจในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชน หรือ ยูธโอลิมปิกเกมส์ ในปี 2030

โดยกฎเกณฑ์สำคัญในการยื่นเสนอตัวเจ้าภาพครั้งนี้ ไอโอซี ไม่ต้องการให้สร้างสนามใหม่มาก ห้ามใช้งบประมาณมากเกิน ไม่อยากให้แต่ละประเทศ แข่งขันใช้งบสูง ให้ใช้สนามที่มีหรือปรับปรุงเพิ่มบ้าง แล้วปลุกให้ใช้สนามเดิม ให้มีชีวิตชีวา รักษาสิ่งแวดล้อม สร้างการรับรู้ในหมู่เด็ก และเยาวชนให้รู้ว่ากีฬามีความสำคัญอย่างไร ให้ความรู้เกี่ยวกับคุณค่าของโอลิมปิกคือ การเคารพกัน มีมิตรภาพ และความเป็นเลิศ นำไปสู่น้องๆ เยาวชนนักกีฬา ให้เรียนรู้น้ำใจนักกีฬาให้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

ให้กีฬาอยู่ในชีวิตของเด็กและเยาวชน รวมทั้งประชาชนของประเทศให้ได้!!!

ปัทมาเชื่อมั่นว่าแม้ตอนนี้จะมีคู่แข่งมากกว่า 30 ชาติ เนื่องจากหากได้เป็นเจ้าภาพในช่วงเวลานั้น จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ หลังเราฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่ประเทศไทยเรามีมาตั้งแต่ต้น จะทำให้ได้เปรียบชาติอื่น ๆ อย่างแน่อน

นอกจากนี้ปัทมายังได้พบปะพูดคุยกัย เอเดส ครานิกิ ประธานโอลิมปิกโปแลนด์ ราฟาเอล ซูลาสต้า ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาโปแลนด์ ประเด็นสำคัญในการพบกันครั้งนี้ ทางคีย์แมนกีฬาของโปแลนด์ ได้ขอคำปรึกษาในการจัดการแข่งขันกีฬายูโรเปี้ยนเกมส์ ปี 2023 ซึ่งมี 50 ชาติ ในยุโรป ร่วมการชิงชัยและมี “มวยไทย” บรรจุในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

เรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของกีฬาประจำชาติไทย ที่กีฬามีคำว่าไทย ติดออกไปทั่วโลก หลัง ไอโอซี เพิ่งให้การรับรองมวยไทย ผ่านไปยัง สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ หรือ อิฟม่า ให้อยู่ในระดับเดียวกับกีฬา เทควันโด ของเกาหลี และยูโดของญี่ปุ่น

โอกาสที่ “มวยไทย” ได้บรรจุเข้าไปในมหกรรมกีฬาต่างๆ ไม่ว่า โอลิมปิกเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ ซีเกมส์ และมหกรรมกีฬาอื่นๆ ในอนาคตก็สดใสขึ้น

โดยเฉพาะในยุโรปนั้น ถือว่าเป็นฐานที่มั่นใหญ่ หากทำให้มวยไทย ในยุโรปแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ร่วมกับการสร้างฐาน และจัดแข่งขัน ส่งเสริมกีฬานี้ ออกไปทั่วโลก ได้รับความนิยม อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ

โอกาสที่ “มวยไทย” ที่ตอนนี้มีสมาชิกถึง 146 ชาติ มีนักมวยไทย ที่ลงทะเบียนไว้กับสหพันธ์ฯ ไม่น้อยกว่า 5 แสนคน รวมถึงมีสโมสร ยิมทั่วโลก ที่ร่วมงานอีกกว่า 5 หมื่นแห่ง จะก้าวไปอยู่ในจุดสูงสุดร่วมกันเพื่อ ที่จะให้กีฬามวยไทย ได้บรรจุเข้าไปในโอลิมปิกได้เร็วที่สุด

จากใจ….คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล