นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย โดย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.) ลาว โดย กรมสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรฯ ว่าด้วยโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย-ลาว ซึ่งเป็นโครงการสำคัญตามกรอบการดำเนินงานความร่วมมือไทย-ลาว พ.ศ. 2561-2564 ในเขตโรงเรียนมัธยมสมบูนนาซอน บ้านนาซอน เมืองปากงึม นครหลวงเวียงจันทน์ และได้มีการลงนาม เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2561 แต่บันทึกความเข้าใจฉบับเดิมได้สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังมีความประสงค์จะดำเนินต่อ

ปลัด ทส. กล่าวต่อว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. จึงเสนอให้ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับใหม่ในครั้งนี้ โดยมีเนื้อหาเหมือนฉบับเดิม แต่ได้ปรับขยายระยะเวลาดำเนินโครงการออกไปถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 เพื่อแสดงถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน ให้เป็นแหล่งรวบรวมและอนุรักษ์พันธุกรรมพืชที่มีค่าหายากและใกล้สูญพันธุ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติแบบยั่งยืนของลาว ตลอดจนสร้างความร่วมมือของนักพฤกษศาสตร์ในการศึกษาด้านพันธุ์ไม้ของสองประเทศ การดำเนินโครงการ ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่ การจัดตั้งสวนรุกขชาติไทย-ลาว ใน สปป.ลาว (พ.ศ. 2564-2566) การจัดพิธีเปิดสวนรุกขชาติไทย-ลาว ใน สปป.ลาว (พ.ศ. 2566-2567) การบริหารจัดการสวนรุกขชาติไทย-ลาว ใน สปป.ลาว (พ.ศ. 2566-2567) และการสำรวจ การเก็บพรรณไม้ และจัดทำหนังสือพรรณไม้ไทย-ลาว (พ.ศ. 2566-2568) ซึ่ง ครม.ได้มีมติอนุมัติและเห็นชอบการดำเนินโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมาสำหรับในส่วนของการจัดสร้างสวนรุกขชาติในฝั่งไทยได้ดำเนินการแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2557 โดยใช้ชื่อว่า “สวนรุกขชาติ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว” ตั้งอยู่ที่บ้านหนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 60 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหนองน้ำธรรมชาติ ประมาณ 40 ไร่ มีการปลูกพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น สะเดา คูณ ประดู่ ยางนา โสกเขา กันเกรา แคนา บุนนาค จำปี ตีนเป็ดทะเล ปีบ กระพี้จั่น ลั่นทม เป็นต้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทั่วไป