ควันหลง หลังการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. ที่เพิ่งผ่านมาได้ 1 สัปดาห์เศษ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 17 ของชาวเมืองหลวง ซึ่งประชาชนในกรุงเทพมหานคร พร้อมใจเข้าคูหาไปกากบาทลงคะแนนให้ 1,386,215 คะแนน จนทุบสถิติมากที่สุดของการเลือกตั้งกทม.

เป็นธรรมดาสื่อมวลชน ต่างต้องไปยิงคำถามเรื่องนี้กับ บิ๊กตู่- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มองปรากฏการณ์จากผลคะแนนที่ออกมาอย่างไรและสะท้อนอะไรบ้าง ? นายกฯตอบเอาไว้ว่า เป็นประชาธิปไตยและเป็นการเลือกตั้งเหมือนการเลือกตั้งทั่วไปและเป็นจังหวัดหนึ่งเท่านั้นของประเทศไทย ทั้งหมดเป็นความชอบพอของประชาชนก็ว่ากันไปตามกลไกของประชาธิปไตย โดยรัฐบาลต้องยินดีด้วยและเป็นกำลังใจ ขอให้ทำงานสำเร็จทำเพื่อประชาชนร่วมกันอยู่แล้ว เมื่อกระเซ้าถามต่อ นายกฯก็ยืนยันว่า ไม่สะท้อนอะไรทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ใครจะนิยมไม่นิยม ผมก็ทำของผมเต็มที่

แต่จากการเลือกตั้งแค่จังหวัดหนึ่ง ตลอดสัปดาห์ทำให้ ดร.ชัชชาติ ไม่ได้ถูกจับตามองเฉพาะคนในกรุงเทพมหานคร กลายเป็นว่า ประชาชนทั่วประเทศเริ่มให้ความสนใจ ดร.ชัชชาติ อดีตรมว.คมนาคม เคยถูกเรียกว่า “รมต.ที่แข็งแกร่งสุดในปฐพี” ด้วยลุคมีทั้งแนว ซูเปอร์ฮีโร่ถือแกงถุง, นักกีฬาหุ่นล่ำบึ้ก ผู้คนในสังคมจับต้องได้ จากบุคลิกยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี เคยผ่านงานทั้งเป็นอาจารย์, รัฐมนตรี มาดผู้นำสมัยใหม่ สื่อสารภาษาอังกฤษคล่องแคล่ว ชื่นชอบวิ่งออกกำลังกาย เหนือสิ่งอื่นใดวางตัวแสนเรียบง่ายกระฉับกระเฉง พร้อมที่จะทำงาน ทำงาน ทำงาน

ไม่ใช่เรื่องแปลกประชาชนเมื่อมีโอกาสเห็นตัวจริง ถึงขั้นเข้าคิวอย่างเป็นระเบียบยาวเหยียดเพื่อจะขอถ่ายภาพคู่กับ ดร.ชัชชาติ ที่เพิ่งอายุ ครบ 56 ปีเต็ม เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ไปทำบุญเลี้ยงพระ “3 พี่น้องสิทธิพันธุ์” ที่รพ.จุฬาฯ มีพี่สาวคนโตคือ ดร.ปรีชญา สิทธิพันธุ์ อดีตอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และ อีกคนคือ รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ พี่ชายฝาแฝด คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และ ผอ.รพ.จุฬาฯ สภากาชาดไทย

ตอนนี้เริ่มจะมีบางกระแส ถึงขั้นจับมาเป็น “คู่เทียบ” เรื่องของภาวะผู้นำกับการบริหาร แม้จะเป็นเพียงแค่จังหวัดหนึ่งเท่านั้น แต่อย่าลืมไปว่า กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงประเทศไทยที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักและอยากมาท่องเที่ยว เมื่อชาวกรุงเทพฯ ตัดสินใจกากบาทเลือก ดร.ชัชชาติ แต่ไม่เลือกตัวแทนจากพรรคฝั่งรัฐบาล คะแนนทิ้งขาดอันดับ 2 มากถึงล้านคะแนน หนำซ้ำคะแนน ส.ก. 50 เขต ยังแลนด์สไลด์ไปยังพรรคฝ่ายค้าน 34 เขตเลือกตั้ง

ปี 2559 พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจ “ม.44” สั่งระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในกรุงเทพมหานครของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. แล้วแต่งตั้ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯ กทม. ขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแทน การแข่งขันชิงเก้าอี้พ่อเมืองหลวง พล.ต.อ.อัศวิน ก็ลงสมัครด้วยในนามอิสระ ได้อันดับ 5 (214,596 คะแนน)

จะว่าไปแล้วมุมมอง การปฏิเสธของคนกรุงครั้งนี้ !! มันอาจจะเป็นแรงกระเพื่อมโดมิโน่ ส่งผลกระทบสะท้อนไปยังการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้ไม่มากก็น้อย

การบริหารกรุงเทพมหานคร หรือบริหารประเทศชาติ ที่ผ่านมาสามารถวัดผลกันได้ ทั้งเรื่องของ ผลงาน เป็นเช่นไร หรือแม้กระทั่ง ภาวะของผู้นำ ใครจะมีความสามารถแท้จริง หรือแนวคิดที่คนไทยจะฝากความหวังอนาคตได้บ้าง โดยเฉพาะความก้าวล้ำทันสมัยของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจโลก ปัจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำผู้บริหารยุคใหม่ นอกจากต้องก้าวทันโลกแล้ว ยังต้องมี ทีมงาน มีความรู้ความสามารถครบรอบด้านแท้จริงมาช่วยกันทำงาน

ตลอด 8 ปี หลังการรัฐประหาร ประเทศไทยได้ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีบริหารนำพาชาติบ้านเมือง ผลงานฝีมือปฏิรูปประเทศ ภาวะผู้นำเป็นเช่นไร ? พ่อแม่พี่น้องประชาชนคงสัมผัสกันได้อยู่แล้ว! แต่เมื่อมีประชาชนเริ่มแสดงอาการเบื่อออกมาให้เห็นจากฉันทามติการลงคะแนนเลือกผู้ว่าฯกทม. ซึ่งตรงกับ วันรัฐประหาร 22 พ.ค.

หลายคนเริ่มมองว่า น่าจะใกล้ถึงเวลานับถอยหลัง หาทาง “ลงหลังเสือ” ของนายกฯ ที่สืบทอดอำนาจมาจากรัฐประหาร ส่วนจะลงแบบไหนที่ไม่ให้โดนเสือตะปบ ต้องไปขบคิดให้ดี ๆ!!.

————————-
เชิงผา