เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 พ.ค. สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย จัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้กับทีมนักกีฬาบิลเลียดและสนุกเกอร์ทีมชาติไทย ที่ภัตราคารโฮคิชเช่น ถนนพระราม 3 หลังจากประสบความสำเร็จในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ด้วยการคว้ามาได้ 1 ทอง กับ 8 ทองแดง โดยมี “บิ๊กฮง” นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ พร้อมด้วย นายไชยพงศ์ กรวสุรมย์ ผู้จัดการทีม “คิวทอง” นายศักดา รัตนสุบรรณ ตลอดจนผู้บริหารของสมาคมฯ ร่วมแสดงความยินดีกับทีมสอยคิวไทย อย่างอบอุ่น

นายสุนทร จารุมนต์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีและดีใจกับผลงานของนักกีฬาสอยคิวชุดซีเกมส์ 2021 ถึงแม้ว่าจะเป็น 1 ทอง กับ 8 ทองแดง แต่เป็นความภาคภูมิใจของทุกคน เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศที่ติดตามชมการถ่ายทอดสดก็มีความสุขไม่แพ้กัน ส่วนคำถามที่ว่า “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” วัฒนา ภู่โอบอ้อม เจ้าของเหรียญทอง สนุกเกอร์ 15 แดง “ฮานอยเกมส์ 2021” ที่ปัจจุบันอายุ 52 ปีแล้ว ยังคงเปิดโอกาสให้ติดทีมชาติเข้าร่วมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ในปีหน้า ต่อไปอีกหรือไม่ หรือจะดันขึ้นเป็นสตาฟฟ์โค้ช นั้น เรื่องนี้ตนขอยืนยันว่าด้วยประสบการณ์ ความสามารถ รวมถึงความทุ่มเทและมีความรับผิดชอบขนาดนี้ คงต้องจัดให้ “ต๋อง” นักกีฬาที่มากด้วยประสบการณ์ ในฐานะพี่ใหญ่ตำแหน่งกัปตันทีม นำน้องไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ปีหน้า ล่าเหรียญทองสนุกเกอร์ ที่กัมพูชา ต่ออย่างแน่นอน

ขณะที่ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เองก็ได้แสดงเจตนารมณ์เช่นกันว่า เมื่อผู้ใหญ่ให้โอกาสก็คงต้องน้อมรับและรับผิดชอบด้วยความภาคภูมิใจและทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถกว่าเดิม สิ่งไหนที่ดีอยู่แล้วจะพัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ส่วนสิ่งไหนที่ยังเป็นจุดบอดก็ต้องเร่งแก้ไข เป้าหมายยังคงเหมือนเดิมคือต้องคว้าเหรียญทอง สนุกเกอร์ 15 แดง ที่กัมพูชา ในปีหน้า ให้ได้

ทางด้าน ต๋อง ศิษย์ฉ่อย กล่าวว่า ตนยังมีความสุขกับความสำเร็จในซีเกมส์ครั้งนี้ ถึงใครจะมองว่าเหรียญทองซีเกมส์ ไม่ใหญ่มาก แต่สำหรับตนเหมือนเป็นกีฬาที่ยิ่งใหญ่ มันเป็นความสำเร็จที่ตนประทับใจ ต้องขอขอบคุณสมาคมฯ ที่ให้โอกาสตนได้ไปแข่งขันในครั้งนี้ หลังจากนี้จะฝึกซ้อมอย่างหนักต่อไป ตนอยากรับใช้ชาติต่อไปในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งต่อไปที่กัมพูชา และเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับสมาคมฯ จะให้โอกาสตนได้รับใช้ทีมชาติอีกสักครั้งหรือไม่