เมื่อวันที่ 30 ก.ค. มีรายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ว่า วันนี้ที่ประชุมมีการพิจารณารายงานของคณะอนุ กมธ. ทั้ง 9 คณะ โดยในส่วนของคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์และไอซีที เข้ารายงานเป็นคณะสุดท้าย ที่ก่อนหน้าคณะอนุ กมธ.คุรุภัณฑ์ฯ แขวนงบจัดซื้อยุทโธปกรณ์อื่น ที่ไม่ใช่เรือดำน้ำลำที่ 2-3 เพราะกองทัพเรือได้ถอนเรื่องออกไป โดยไม่มีตัวแทนของกองทัพเรือเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมคณะ กมธ.ประมาณฯ ชุดใหญ่ทราบ ทำให้นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.ซีกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอให้ที่ประชุมโหวตด้วยการยกมือว่า ปรับลดงบกองทัพเรือหรือไม่ ซึ่งขณะนั้นนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ในฐานะรองประธาน กมธ.งบประมาณฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก็เห็นชอบด้วยกับข้อเสนอของนายเรืองไกร
ขณะที่ฝ่ายค้าน โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กมธ.งบประมาณฯ พยายามเจรจากับนายสันติ พร้อมพัฒน์ และนายวิเชียร ชวลิต รองประธาน กมธ. เพื่อให้ชะลอการพิจารณาออกไป เพราะงบของกองทัพเรือมีถึง 15,858,040,000 บาท แต่ตัดไปเพียง 8 ล้านกว่าบาทเท่านั้น แต่การคัดค้านของซีกฝ่ายค้านไม่เป็นผล ทำให้ฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ทั้งหมด ทำให้ กมธ.ซีกรัฐบาล ทั้ง 36 คน ยกมือให้ปรับลดเพียงรายการเดียว คือ รถประจำตำแหน่ง จำนวน 5 คัน คันละ 1.67 ล้านบาท รวม 8.38 ล้านบาท ส่วนรายการจัดซื้ออื่นๆ ยังอยู่ครบ เช่น โครงการอากาศยานไร้คนขับ เพื่อลาดตระเวนชายฝั่ง จัดซื้อจากจีนจำนวน 3 ตัว ใช้งบ 4,100 ล้านบาท เรือดำน้ำลำที่หนึ่ง ซึ่งเป็นงบผูกพัน 1,145 ล้านบาท เรือยกพลขี้นบก หรือ แอลพีดี จำนวน 1,700 ล้านบาท และโดรนอเนกประสงค์ (ยูเอวี) มูลค่า 570 ล้านบาท ทั้งนี้ การประชุมเสร็จสิ้นในเวลา 16.30 น.