พยายามเก็บอาการ ซ่อนอารมณ์ความรู้สึก ต้องข่มจิตใจน่าดู! เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จำเป็นต้องฝ่าดงคำถามของนักข่าวกรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 1,386,215 คะแนน

เรียกว่าการเลือกตั้งเที่ยวนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยชนะขาด! ทั้งนายชัชชาติและนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้คะแนนรวมกัน 1,640,066 คะแนน ส่วนฝ่ายรัฐบาลประยุทธ์คะแนนรวม 4 คน (สุชัชวีร์สกลธีอัศวินรสนา) แค่ 778,724 คะแนน

ขณะที่ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) 50 เขต พรรคเพื่อไทยประเดิมแลนด์สไลด์ ส.ก. 20 คน พรรคก้าวไกล 14 คน พรรคประชาธิปัตย์ 9 คน พรรคไทยสร้างไทย 2 คน พรรคพลังประชารัฐ 2 คน กลุ่มรักษ์กรุงเทพ 3 คน

พล.อ.ประยุทธ์ตอบนักข่าวว่าคะแนนที่ออกมาเหมือนการเลือกตั้งทั่วไป และเป็นจังหวัดหนึ่งเท่านั้น ไม่สะท้อนอะไรทั้งนั้น ไม่สะท้อนตน เพราะพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ

เมื่อถามย้ำว่าแต่พรรคพลังประชารัฐส่ง ส.. แต่ได้มาเพียง 2 คน พล..ประยุทธ์ตอบว่าแล้วประชาชนเลือกหรือไม่ ก็อยู่ที่ประชาชน เลือกไม่เลือกเป็นเรื่องของประชาชน ขอให้ดูต่อไป เลือกมาแล้วทำอะไรดีขึ้นหรือไม่ ตนหวังว่าจะดีขึ้น ไม่สะท้อนอะไรทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล “ใครจะนิยมไม่นิยม ผมก็ทำของผมเต็มที่”

นักข่าวไม่ลดละถามต่อว่ามีผลกับการตัดสินใจในอนาคตหรือไม่ คำตอบคือ “ไม่มี” ทั้งนี้เมื่อถามว่าหลังผลการเลือกตั้งได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่ายหน้าและเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

ตัดภาพมาที่นายชัชชาติได้โพสต์ข้อความหลังจากรู้ว่าคะแนนทิ้งห่างผู้สมัครคนอื่น ๆ ว่า “ไม่ใช่ชัยชนะ แต่เป็นคำสั่งของประชาชน เดินต่อไปด้วยกัน ขอบคุณทุกคนครับ”

ตามมาด้วย “ผมจะเป็นผู้ว่าฯ ของทุกคน ท่านไหนจะเลือกหรือไม่เลือก ผมก็ต้องรับใช้ทุกคนเหมือนกัน เพราะถือว่าได้เป็นตัวแทนของคนกรุงเทพฯ อนาคตต่อไปเรามาเดินด้วยกัน เราเห็นต่างกันได้ แต่อย่าเกลียดกัน เราอย่าทะเลาะกัน”

บรรดาคอการเมืองทราบดีว่าวันที่ 22 พ.ค. เป็นวันที่มีความหมายสำหรับนายชัชชาติ และเขาได้ขยี้ถึงเหตุการณ์วันที่ 22 พ.ค.57 อยู่บ่อย ๆ เนื่องจากเป็นวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำรัฐประหาร ซึ่งนายชัชชาติเป็นหนึ่งในอดีตรัฐมนตรีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกถุงคลุมศีรษะแล้วเอาตัวไปควบคุมไว้ในค่ายทหาร

ผ่านมาครบ 8 ปี วันที่ 22 ..65 นายชัชชาติชนะเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ด้วยคะแนนถล่มทลาย มากที่สุดตั้งแต่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เมืองหลวง งานนี้จึงเหมือนตบหน้าคณะรัฐประหาร และตบหน้า “มนุษย์ถนนลูกรัง” ฉาดใหญ่!

คำกล่าวที่ว่า “คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล คนกรุงเทพฯล้มรัฐบาล” ยังมีความขลังอยู่เสมอ และการเลือกตั้งเมื่อ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เหมือนเป็นคำพิพากษาของประชาชนในยกที่ 1 มอบให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ที่ไม่ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งเท่าที่ควร เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ลากยาวทั้งการเลือกตั้งในระดับชาติ และการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น มาเนิ่นนานขนาดนี้ แต่ปล่อยให้ผู้ว่าฯ กทม. ที่ตนเองใช้ ม.44 แต่งตั้งขึ้นมา นั่งยาวถึง 5 ปี

หาก พล..ประยุทธ์ยังตื๊อทำงานต่อไป แต่ผลที่ได้คือความยากลำบากเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนทั่วประเทศ แล้วคอยดูว่า พล..ประยุทธ์จะเจอคำพิพากษาของประชาชนในยกที่ 2 อย่างสะบักสะบอมที่สุดในชีวิต!!.