“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ระบุว่าตอนนี้ยังไม่มีแผนเตรียมการสำหรับหาโค้ชทีมฟุตบอลทีมชาติไทยคนใหม่ แทนที่ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น ที่สมาคมลูกหนังไทยได้ยุติสัญญาแล้ว

เรื่องนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้แถลงการเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 ก.ค. ซึ่งสาเหตุของการยุติสัญญา มาจากผลงานไม่เป็นไปตามเป้า ตกรอบฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ได้ 9 แต้ม อยู่อันดับ 4 จาก 5 ทีมในกลุ่ม G ซึ่งตัวของนิชิโนะเอง หลังจบภารกิจ 3 นัดสุดท้าย ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อกลางเดือน มิ.ย. ก็ได้เดินทางกลับประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำภารกิจส่วนตัว คือธุระสืบเนื่องจากการเสียชีวิตของมารดาตั้งแต่ต้นปี และร่วมพิธีวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกเกมส์ ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่าเป็นการเปลี่ยนกำหนดกลับญี่ปุ่นอย่างกะทันหัน จากนั้นได้มีการพยายามติดต่อให้กลับมาร่วมประชุมสรุปผลงาน กระทั่งวันที่ 20 ก.ค. นิชิโนะ ได้เดินทางกลับไทย เข้ากักตัว ก่อนที่มีการประกาศยุติสัญญาดังกล่าว

“กีฬาเดลินิวส์” สอบถาม พล.ต.อ.สมยศ ถึงรายละเอียดต่างๆ ซึ่ง บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า ตั้งแต่ นิชิโนะ เดินทางกลับมา ก็มีการประสานโดยเริ่มจากส่งคำถามไปให้ ถึงข้อสงสัยประเด็นต่างๆ จากนั้นได้มีการประชุมด้วยระบบซูม เพื่อตอบคำถามที่ส่งไป มีผู้ประสานงานของ นิชิโนะ ที่พูดได้ทั้งภาษาญี่ปุ่น, ภาษาอังกฤษ ประชุมด้วย เมื่อประชุมครั้งนั้นแล้ว สมาคมฯ ก็มาประเมินว่า ควรไปต่อดีไหม ในสถานการณ์แบบนี้ ก่อนตัดสินใจแจ้งผู้ประสานงานของ นิชิโนะ ในการยุติสัญญา

เมื่อถามว่า การยุติสัญญาครั้งนี้ สมาคมฯ จะต้องจ่ายค่าชดเชยให้ นิชิโนะ หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เปิดเผยไม่ได้ เพราะเป็นเงื่อนไขข้อตกลง อย่างไรก็ตาม จากนี้ก็จะนัดคุยกับทางนิชิโนะอีก เพื่อหารือหาข้อยุติร่วมกัน เมื่อถามว่า เตรียมการตั้งโค้ชคนใหม่แล้วหรือยัง พล.ต.อ.สมยศ ตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผนอะไรไว้ หรือยังไม่ได้คิดอะไรไว้

สำหรับโปรแกรมของทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในปีนี้ หลังจากยกเลิกฟีฟ่าเดย์ ทั้งหมดแล้ว จะเหลือเพียงศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ในช่วงเดือน ธ.ค. จากนั้นจะเป็น เอเชี่ยนคัพ 2023 รอบคัดเลือก เริ่มแข่งเดือน ก.พ.ปีหน้า ขณะที่ในชุดอายุไม่เกิน 23 ปี จะมีศึกฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ปลายเดือน ต.ค.ที่ประเทศมองโกเลีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คาดว่าในส่วนของโค้ชชุดใหญ่นั้น สมาคมฯ อาจจะไม่รีบแต่งตั้งในช่วงนี้ เพราะมีศึกซูซูกิคัพในเดือน ธ.ค. หน้าที่ในการหาโค้ช ก็จะเป็นของ การ์เลส โรมาโกซา ผู้อำนวยการเทคนิคของสมาคมฯ

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ แต่งตั้ง “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด เป็นรักษาการหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย และ “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร เป็นผู้ช่วยโค้ชไว้แล้ว ในเรื่องของการดูฟอร์มนักเตะในช่วงที่ยังไม่มีโค้ช ก็น่าจะให้ โค้ชจุ่น และทีมงานทำหน้าที่ไปก่อน รวมทั้งศึก 23 ปีเอเชีย รอบคัดเลือก ก็น่าจะเป็น โค้ชจุ่น-โค้ชหระ ที่ทำหน้าที่คุมทีม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ อากิระ นิชิโนะ เซ็นสัญญาคุมทีมชาติไทย เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2019 แทนที่ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เป็นโค้ชคนที่ 4 ในยุคที่ พล.ต.อ.สมยศ เป็นนายก ต่อจาก เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, มิโลวาน ราเยวัช และ โค้ชโต่ย ส่วนค่าจ้างนั้น รายงานข่าวระบุว่า สัญญาฉบับปัจจุบันอยู่ที่ 33 ล้านบาทต่อปี หรือตกเดือนละ 2.75 ล้านบาท แต่ช่วงนี้ นิชิโนะ รับเงินครึ่งเดียวมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งสัญญามีจนถึงเดือน ม.ค.ปีหน้า ด้วยค่าเหนื่อยที่ค่อนข้างสูง และทีมชาติไทยก็เว้นแข่งขันยาวนาน ซูซูกิคัพ ก็ไม่แน่ว่าจะจัดหรือไม่ อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ สมาคมฯ แยกทางกับ นิชิโนะ นอกจากสาเหตุหลักเรื่องผลงานคัดบอลโลก

ด้านผลงานของ นิชิโนะ นอกจากการตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกแล้ว ก็มี ซีเกมส์ 2019 ตกรอบแรก, ฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ตกรอบ 2 ชวดไปโอลิมปิกเกมส์ หากนับเฉพาะชุดใหญ่ 10 นัดหลัง ในทุกรายการ ทั้งอุ่นเครื่องเป็นทางการ ไม่เป็นทางการ ทีมไทยไม่ชนะใครเลย