การระเบิดเกิดขึ้นตามแนวทางด่วนใกล้เมืองปาแลร์โม เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2535 ส่งผลให้ฟัลโคเนกับภรรยาของเขา ที่กำลังเดินทางกลับจากกรุงโรม และเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกัน 3 นาย เสียชีวิต ส่วนคนขับรถของฟัลโคเน และเจ้าหน้าที่ตามหลังขบวนรถ 3 คน รอดชีวิต
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วอิตาลี แต่ยังเป็นสัญญาณการเริ่มต้นความเสื่อมโทรมของมาเฟียอีกด้วย
ฟัลโคเนถือเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงต่อ คอซา นอสตรา กลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่โด่งดังด้วยภาพยนตร์ไตรภาค “เดอะ ก็อดฟาเธอร์” และการอวดอ้างการเข้าถึงอำนาจระดับสูงสุดของอิตาลี ซึ่งเขาเป็นคนที่รวบรวมหลักฐานจากผู้ให้ข้อมูลมาเฟียคนแรกสำหรับการพิจารณาคดีแบบใหม่ ที่ทำให้สมาชิกแก๊งหลายร้อยคนถูกตัดสินโทษในปี 2530
การเสียชีวิตของฟัลโคเน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เขาไปกรมคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรม และกำลังทำงานในชุดกฎหมายต่อต้านมาเฟีย สร้างความตื่นตัวให้คนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ในวันต่อมา หรือการประท้วงตามถนนในเมืองปาแลร์โม ทุกสายตายังจับจ้องไปที่นายเปาโล บอร์เซลลีโน ผู้พิพากษาต่อต้านมาเฟีย ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานของฟัลโคเน ซึ่งยืนยันทำงานต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งเป็นเวลา 57 วันหลังจากการเสียชีวิตของฟัลโคเน บอร์เซลลีโน และสมาชิกหน่วยคุ้มกัน 5 คน ถูกสังหารในเหตุระเบิดรถยนต์เช่นกัน มีเพียงคนขับรถของเขาที่รอดชีวิต รัฐบาลอิตาลีเร่งล่านายซัลวาตอเร “โตโต” รีนา หัวหน้าแก๊ง คอซา นอสตรา และสามารถจับกุมได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2536
นายวินเชนโซ เซรุโซ ผู้เขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับมาเฟีย กล่าวว่า การฆาตกรรมฟัลโคเน และบอร์เซลลีโน “กลายเป็นธุรกิจที่เลวร้ายในระยะยาวอย่างมากสำหรับคอซา นอสตรา ที่ทีมบริการจัดการรับโทษตัดศีรษะหลังจากการจับกุม และการรับสารภาพ”
ด้านนายโรแบร์โต ดิ เบลลา ผู้พิพากษาต่อต้านมาเฟียคนปัจจุบัน กล่าวว่า ในขณะที่ “ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่ถูกสอบสวนและตัดสินโทษ” แต่มันก็มี “ส่วนที่ยังไม่ชัดเจน” อยู่ด้วย ผู้รอดชีวิตหลายคนยืนกรานว่า มันมีชิ้นส่วนปริศนาบางอย่างที่หายไป และชี้ไปยังความเชื่อของฟัลโคเน ว่าอาจมี “จุดที่เป็นไปได้ของความร่วมมือระหว่างเหล่าหัวหน้าของคอซา นอสตรา กับศูนย์กลางอำนาจที่ลึกลับ”
อย่างไรก็ตาม เซรุโซ กล่าวว่า การสืบสวนในเรื่อง “ผู้บงการลึกลับ” ที่เป็นไปได้ของการโจมตีที่เมืองคาปาชิ ถูกทิ้งไป เมื่อปี 2556 เนื่องจาก “ไม่มีหลักฐานถึงการมีอยู่ของผู้สนับสนุนจากภายนอก ทำให้สรุปได้อย่างไม่ต้องสงสัยว่า นี่คือการกระทำของมาเฟีย”.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
