ที่ห้องประชุมช้างใหญ่ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์  ร่วมกับส่วนราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กล่าวประกาศเจตนารมณ์ของจังหวัดสุรินทร์ “หมู่บ้านนี้ไม่มีโควิด-19” พร้อมมอบสัญลักษณ์ “ธงสีฟ้า” และป้ายข้อความสัญลักษณ์ ให้กับนายอำเภอทุกอำเภอ เพื่อนำไปอบต่อกับหมู่บ้านที่ได้ดำเนินการตามมาตรการ และประกาศเป็นหมู่บ้านไม่มีโควิด-19

นายสุวพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า โครงการหมู่บ้านนี้ไม่มีโควิด-19 เป็นโครงการที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ประชาชนในหมู่บ้าน ช่วยกันป้องกันโควิด-19 อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้ 5 มาตรการหลัก ประกอบด้วย ในหมู่บ้านไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ถ้าเคยมีผู้เคยติดเชื้อโควิด-19 ต้องรักษาหายแล้ว ต้องมีการส่งเสริมการปลูก และใช้สมุนไพรในการรักษาและป้องกันโควิด-19 ต้องปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้านอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ หากหมู่บ้านใดผ่านเกณฑ์ตามมาตรการ ทางจังหวัดจะมีการมอบ “ธงสีฟ้า” แสดงสัญลักษณ์ของหมู่บ้านนี้ไม่มีโควิด-19 พร้อมกับป้ายข้อความ “หมู่บ้านนี้ไม่มีโควิด-19” ให้กับทุกหมู่บ้านในจังหวัดสุรินทร์ ขยายผลไปสู่ตำบลนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และอำเภอนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด ต่อไป

ขณะที่นายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ นายอำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้รับมอบธงหมู่บ้านนี้ไม่มีโควิด-19 จากผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ด้วย โดยอำเภอท่าตูม มีหมู่บ้านที่ไม่มีผู้ติดเชื้อ หรือติดเชื้อแต่รักษาหายแล้วจำนวน 98 หมู่บ้านจากทั้งหมด 165 หมู่บ้าน เห็นตัวเลขคนติดเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงมาลองเปรียบเทียบดูสถิติหมู่บ้านที่ไม่ติดบ้าง ก็ถือว่ามีเกินกว่าครึ่งสร้างพลังมุมบวกได้บ้าง

หลังจากนั้นนายอำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ มาที่ศาลาพันปี เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการผู้ป่วยติดเชื้อให้มีสถานที่เพียงพอกับจำนวนผู้เดินทางกลับมา ซึ่งศูนย์พักคอยศาลาขาว ของ อบต.พรมเทพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้เปิดใช้แล้ว ส่วนเรื่องสมุนไพร บ้านหนองคู ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้มอบกระชายขาว 20 กก. และปลากระดี่บ้านไกลเสนียด ต.หนองบัว อ.ท่าตูม ซึ่งจะร่วมด้วยช่วยกันมอบฟ้าทะลายโจร ทั้งเป็นต้น และทั้งแคปซูล ให้เพื่อจะได้มอบให้ทั้ง 10 ตำบล นำไปขยายผลต้มให้ผู้กักตัวดื่ม และนำไปปลูกในพื้นที่ต่อไป ส่วนโครงการ “คนสุรินทร์กลับบ้าน (Surin Back Home)” อบต.กระโพ ได้นำรถรับ-ส่ง ผู้ป่วย อำเภอท่าตูม จำนวน 4 ราย ส่งต่อผู้ป่วยให้ รพ.สนาม ในพื้นที่อีกด้วย.