แม้สื่อของรัฐยังไม่ได้ยืนยันสถิติผู้ป่วยรวม แต่ระบุว่าประชากรมากกว่า 350,000 คน แสดงอาการเป็นไข้ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. และมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 หลังจากที่มีการยืนยันการพบเชื้อแค่ 1 วัน
ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) นอกจากประเทศเอริเทรีย เกาหลีเหนือคืออีกหนึ่งประเทศไม่ได้เริ่มการรณรงค์ฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 และโครงการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ระดับโลก หรือโคแวกซ์ ตัดจำนวนโด๊สที่จัดสรรให้เกาหลีเหนือ เพราะประเทศไม่สามารถจัดการการขนส่งสินค้าใด ๆ ได้
แม้เกาหลีเหนือจะระบุเมื่อปีที่แล้วว่า มีการพัฒนาอุปกรณ์เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 และรัสเซียส่งชุดตรวจจำนวนหนึ่งมาให้ แต่ด้วยการคว่ำบาตรโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และการปิดพรมแดนที่เข้มงวดตั้งแต่ปี 2563 ทำให้เกิดอุปสรรคในการจัดหา อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังกล่าวว่า ความคืบหน้าในการตรวจหาเชื้อของเกาหลีเหนือในตอนนี้ ไม่สามารถรับมือกับตัวเลขผู้ป่วยที่แสดงอาการตามรายงานได้
“เกาหลีเหนือตรวจหาเชื้อได้ราว 1,400 คนต่อสัปดาห์ เมื่อคาดคะเนจากความจุสูงสุดแล้ว พวกเขาจะทำการตรวจได้ 400 คนต่อวัน ซึ่งไม่ใกล้เคียงพอที่จะตรวจคนที่มีอาการ 350,000 คนได้เลย” คี พาร์ค จากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด ที่ทำงานในโครงการบริการสุขภาพต่าง ๆ ในเกาหลีเหนือ กล่าว
ถึงเกาหลีเหนือจะมีแพทย์จำนวนมาก และสามารถจัดตั้งเจ้าหน้าที่ในสถานการ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว แต่ระบบบริการสุขภาพของประเทศไม่มีทรัพยากรเพียงพอในระดับเรื้อรัง จนถึงขั้นที่มีการเชื่อว่า เกาหลีเหนือขาดแคลนเวชภัณฑ์พื้นฐาน เช่น ยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อ
ผู้สืบสวนอิสระด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รายงานว่า เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา การยับยั้งโรคโควิด-19 ของเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมถึงการปิดพรมแดนประเทศ อาจป้องกันการระบาดรุนแรงได้ “แต่มีแนวโน้มจะสร้างความเสียหายค่อนข้างมาก ต่อสถานการณ์สุขภาพในวงกว้าง”
ทั้งนี้ ชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์หลายคนกล่าวว่า การระบาดอาจเป็นความท้าทายทางการเมืองสำหรับผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ “นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุด ประกาศใช้เวชภัณฑ์สำรอง หมายความว่าเกาหลีเหนือในตอนนี้ พวกเขาจะใช้แหล่งสำรองทางสงคราม และโรงพยาบาลไม่มียาเหลืออยู่แล้ว” นายแท ยอง-โฮ อดีตนักการทูตเกาหลีเหนือ ที่ลี้ภัยมายังเกาหลีใต้เมื่อปี 2559 กล่าว
นอกจากนี้ นายจี ซอง-โฮ สภาชิกสภานิติบัญญัติของเกาหลีใต้ ที่ลี้ภัยจากเกาหลีเหนือในปี 2549 กล่าวว่า ไวรัสอาจแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขาดระบบการแพทย์ที่ทำงานได้จริง ดังที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในช่วงการระบาดไข้ไทฟอยด์เมื่อยุคทศวรรษ 1990 เป็นฝันร้ายสำหรับระบอบการปกครองและคนเกาหลีเหนือ.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : REUTERS
