เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะ ผอ.การเลือกตั้งพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการปราศรัยในช่วงโค้งสุดท้ายสนามการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า การปราศรัยใหญ่จะจัดขึ้น 2 ครั้ง คือ ในวันที่ 14 พ.ค. ที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ โดยจะมีผู้ปราศรัย ประกอบด้วย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล และตน ส่วนวันที่ 20 พ.ค. จะจัดที่มิวเซียมสยาม โดยมีผู้ปราศรัย ประกอบด้วย นายวิโรจน์ และทีมผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้ง 50 เขต

เมื่อถามว่าจะมีการเปิดนโยบายเพิ่มเติมหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ในการปราศรัยช่วงโค้งสุดท้ายจะเป็นการตอกย้ำนโยบายที่เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ และนำเสนอเหตุผลว่าทำไมต้องเลือกนายวิโรจน์ และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเข้ามาทำงานให้ กทม.

เมื่อถามถึงการเปิดวอร์รูม เพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค.นี้ นายชัยธวัช กล่าวว่า เราจะจัดตั้งวอร์รูมที่อาคารอนาคตใหม่ โดยจะเริ่มติดตามสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงปิดหีบเลือกตั้ง ขณะนี้พรรคก้าวไกล กำลังระดมอาสาสมัครเพื่อเฝ้าประจำหน่วยเลือกตั้ง และติดตามข่าวสารพฤติกรรมที่เข้าข่ายการทุจริต จนถึงปัจจุบันเริ่มได้รับการแจ้งว่ามีพฤติกรรมการจ่ายเงินเพื่อให้มาฟังปราศรัยหาเสียง โดยทางพรรคจะจับตาอย่างเต็มที่ และประชาชน กทม. จะเป็นกลไกสำคัญในการเป็นหูเป็นตาป้องกันการทุจริต ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะหากออกมาใช้สิทธิจำนวนมากจะช่วยลดอิทธิพลการทุจริตในการเลือกตั้งได้ จึงอยากเชิญชวนให้คน กทม. ออกมาเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และส.ก. ให้เยอะที่สุด

เมื่อถามถึงการจัดทำโพลของพรรคก้าวไกล นายวิโรจน์อยู่ในอันดับที่เท่าใด นายชัยธวัช กล่าวว่า ขณะนี้ นายวิโรจน์ มีคะแนนนิยมหายใจรดต้นคออันดับที่หนึ่งอยู่ ส่วน ส.ก.มีเขตที่เราค่อนข้างมั่นใจว่าจะชนะประมาณ 20 เขต และเขตที่มีโอกาสจะช่วงชิงมาได้อีกในช่วงโค้งสุดท้ายประมาณ 14 เขต โดยตั้งเป้าว่าจะได้ ส.ก. 20 คนขึ้นไป