สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ว่า หญิงชาวอัฟกานิสถานรวมตัวกันตามท้องถนน ในกรุงคาบูล เพื่อประท้วงต่อต้านการที่รัฐบาลตาลีบัน มีคำสั่งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ผู้หญิงทุกช่วงวัยในอัฟกานิสถานต้องแต่งกายด้วยการปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิด เมื่อออกนอกเคหสถาน หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม จะมีการสอบสวนสมาชิกในครอบครัวที่เป็นชาย และอาจนำไปสู่บทลงโทษที่เป็นการจำคุก หรือการต้องออกจากงาน หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ


อย่างไรก็ตาม การเดินขบวนเกิดขึ้นได้ไม่นานนัก เนื่องจากสมาชิกกลุ่มตาลีบันซึ่งรักษาความปลอดภัยอยู่ตามท้องถนน มาขอให้สลายการชุมนุม และพยายามห้ามไม่ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ

นักรบตาลีบัน ยืนประจำการบนถนนสายหนึ่ง ในกรุงคาบูล


ขณะที่สำนักงานสหประชาชาติประจำอัฟกานิสถานแสดงท่าที “วิตกกังวล” ต่อคำสั่งของรัฐบาลตาลีบัน และขอหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงศีลธรรม ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) เตรียมหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 12 พ.ค.


ปัจจุบัน ผู้หญิงอัฟกันส่วนใหญ่ยังคงสวมผ้าคลุมศีรษะด้วยเหตุผลทางศาสนา แต่ไม่ถึงขั้นปิดบังใบหน้าทั้งหมด โดยเฉพาะผู้หญิงตามเมืองใหญ่ อาทิ กรุงคาบูล คำสั่งดังกล่าวที่ออกมา เท่ากับเป็นการหวนกลับคืนสู่ยุครัฐบาลตาลีบันสมัยแรก ที่ปกครองอัฟกานิสถาน ระหว่างปี 2539-2544 โดยแถลงการณ์ของกระทรวงศีลธรรมระบุด้วยว่า “ขอแนะนำ” ให้สตรีอัฟกันสวมบูร์กา ซึ่งเป็นชุดคลุมปกปิดใบหน้าและร่างกาย ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า.

เครดิตภาพ : REUTERS