เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 11 พ.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ลงพื้นที่เขตมีนบุรี และเขตคลองสามวา เริ่มตั้งแต่บริเวณตลาดหทัยมิตรหมู่บ้านเมืองประชา เขตมีนบุรี พูดคุยกับประธานและกรรมการชุมชน จากนั้นเดินทางไปที่วัดฝอกวงซัน เพื่อพูดคุยกับเครือข่ายประชาชนเขตคลองสามวา

นายชัชชาติ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่วันนี้ได้รับผลตอบรับดี เราพยายามนำเสนอนโยบายที่อยากทำ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดฝอยเช่น ถนน การระบายน้ำ ปัญหาขยะ สำหรับเขตคลองสามวา เริ่มมีหมู่บ้านจัดสรรมากขึ้นการขยายหรือพัฒนาถนนโครงข่ายอาจยังไม่ทันต่อการขยายตัวของหมู่บ้านจัดสรร การจัดเก็บขยะอาจยังไม่เพียงพอ ประชาชนในพื้นที่ระบุว่า ปัจจุบัน กทม.จัดเก็บสัปดาห์ละ 1-2ครั้ง

นอกจากนี้ เราให้ความสำคัญกับพื้นที่การเกษตรในกรุงเทพฯ ทั้งในแง่การรับน้ำความมั่นคงทางเกษตร และวิถีชีวิตของประชาชนในกรุงเทพฯ เช่น แถวหนองจอกมีนบุรี ลาดกระบัง จากการรับฟังปัญหาส่วนใหญ่ คือ ปัญหาน้ำที่ใช้ในการเกษตรซึ่งต้องปรับนโยบายไม่เพียงแต่การป้องกันน้ำท่วม แต่รวมไปถึงการกักเก็บน้ำสำหรับใช้ในการเกษตร

ขณะเดียวกัน นอกจากความมั่นคงทางเกษตรแล้ว เราต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหาร หลายๆครั้งที่เราขนส่งอาหารจากต่างจังหวัดเพื่อมาบริโภคในเมือง เมื่อเกิดวิกฤติ เช่น น้ำท่วม กรุงเทพฯอาจไม่มีความมั่นคงทางอาหาร หากเราสามารถสนับสนุนให้มีอาหารในพื้นที่จะช่วยแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงสนับสนุนให้ กทม. ซื้อผลผลิต พืชผัก หรือข้าวจากวิสาหากิจชุมชนนำมาประกอบอาหารให้นักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม. หรือ จัดหาตลาดเกษตรกร Farmer market เปิดพื้นที่ให้มีการจับจ่ายซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ เป็นการหมุนเวียนเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า แต่ละพื้นที่มีปัญหาที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องมีนโยบายรายเขต เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหา โดยได้มีนโยบายปรับเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นระบบดิจิทัล ย้ายระบบราชการที่เกี่ยวข้องกับประชาชนให้ขึ้นไปสู่ระบบออนไลน์อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการติดต่อหน่วยงานราชการ รวมถึงให้ประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าต่าง ๆ ในการทำงานของราชการ เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

“เรามีนโยบายรายเขต ที่เอาปัญหาขึ้นบนแผนที่ดิจิทัล ซึ่งบนดิจิทัลไม่หาย มันอยู่ตลอด ไม่เหมือนกระดาษที่จะเอาไปซุกไว้ใต้พรม เราตามจี้ได้เลยว่าทำไมไม่แก้ ต้องมีเหตุผลให้ประชาชน หัวใจหนึ่งของนโยบายเราคือเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นดิจิทัลผมว่าอันนี้คือสิ่งที่ทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพและโปร่งใสขึ้น” นายชัชชาติ กล่าวพร้อมยอมรับประเมินว่าพื้นที่รอบนอกยังเป็นจุดอ่อนซึ่งพยายามลงพื้นที่ แต่อาจไม่ทั่วถึงและต้องพยายามหาช่องทางในการสื่อสารอื่นๆ ให้มากขึ้นเพื่อเข้าให้ถึงประชาชนเช่น การพบผู้นำชุมชนที่อาจนำนโนบายไปสื่อสารต่อได้.