จากกรณี นายวินัย อดีต ผอ.โรงเรียน ร่ำไห้ ขอให้ “ครูวิชชุดา” แม่ของ “แมงมุม กิติพัฒน์ รัตนเศรณี” ดารานักแสดงชดใช้เงินที่ไปกู้มาแล้วให้กลุ่ม ผอ.ครู 8 คนค้ำประกัน แล้วก็หนีหนี้ไม่ใช้หนี้ธนาคารกว่า 20 ปี ส่งผลให้ผอ.กลุ่มผู้ค้ำต้องมาใช้หนี้แทน 1.4 ล้าน ทำให้บางคนเครียดถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตกกลายเป็นคนพิการ และบางคนก็เส้นเลือดสมองแตกเสียชีวิต ด้าน ผอ.วินัยเอง ก็ต้องโดนหักเงินเดือนหลังเกษียณเพื่อไปใช้หนี้แทนครูวิชุดา ทำให้เหลือเงินเพียงเดือนละ 2,000 ไม่พอกิน เรียกร้องให้แมงมุมที่เคยรับปากว่าจะใช้หนี้แทนแม่ ให้รับผิดชอบ โดยเรียกร้องเงินยอดเงิน 600,000 บาท

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 พ.ค. แมงมุม กิติพัฒน์ ก็ได้โพสต์ได้โพสต์ไอจี mangmum_kitipat ชี้แจงว่า

เรื่องราวเป็นคดีที่เกิดกับคุณแม่ของผม เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ผมพึ่งทราบเรื่องคดีนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้วจึงเป็นที่มา ที่ได้ไปเคลียร์กับคู่กรณีของคุณแม่ผมที่รายการโหนกระแส ก็จบความที่ว่า ผมในฐานะลูกจะชดใช้และผ่อนจ่ายให้ (ในตอนที่ตกลงนั้นพูดตรงๆเลยคือไม่มีเงินครับ ณ ช่วงเวลานั้น เพราะเป็นช่วงที่ผมล้มพอดี หนี้จากธุรกิจเก่าเยอะประกอบกับค่าตัวนักแสดงตอนนั้นก็ไม่ได้เยอะคับจึงใช้เดือนชนเดือนถึงติดลบมาโดยตลอด ผจก.ผมจะรู้ถึงความเป็นอยู่ผมในช่วงนั้นดี)

ต่อมาผมก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างตัว เพื่อที่จะให้ตัวเองมีกำลังพอที่จะพัฒนาฐานะทางการเงินของตัวเรา เพื่อที่จะใช้หนี้ให้ตัวเอง และของครอบครัว ย้ำนะคับ!!! ว่าหนี้ไม่ได้มีแค่ก้อนนี้คับ ผมในฐานะหัวหน้าครอบครัว ก็พยายามที่จะเลี้ยงดูคุณแม่มาตลอดไม่ว่าตอนมีหรือตอนไม่มี ซึ่งระยะเวลาที่ผมสร้างตัวก็ราวๆ 2-3 ปี ซึ่งยอมรับเลยคับว่าสาหัสมาก ทั้งเรื่องภาวะเศรษฐกิจและช่วงโควิด ทำให้ธุรกิจทั้งหมดพัง ถ่ายละครก็ถ่ายไม่ได้ รู้สึกช่วงนั้น ผมจะเป็นเทรนเนอร์ด้วยคับ ก็แน่นอนคับ ยิมปิด คุณพระ!!! หาเงินจากที่ไหนล่ะเนี่ย

แต่ในที่สุดผมก็ผ่านมันมาได้ ผมพึ่งมาตั้งตัวได้ประมาณ เกือบ 1 ปี จึงได้เริ่ม จัดสรรเงินดังนี้ 1.เก็บเงินเพื่อรองรับความเสี่ยงต่างๆ 2.ลงทุน 3.ทำบุญ 4.ดูแลครอบครัว 5.ใช้ชีวิต 6.ใช้หนี้ ผมได้ตั้งใจใช้หนี้ต่างๆไม่ว่าจะเป็นของตัวเองและครอบครัวมาตลอด ซึ่งโชคร้ายตรงที่คุณยายผมก็ป่วยพอดี ยายผมเป็นโรคอัลไซเมอร์+โรคกระดูก+โรคพาร์กินสัน ใครที่มีผู้ป่วยอยู่ในบ้านจะรู้ได้เลยว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งทำให้ผมต้องจัดสรรค่าใช้จ่ายในทุกๆด้านให้ลงตัว ให้ทุกคนรอบตัวผมไม่รู้สึกว่าขาดหรือรู้สึกว่า ผมไม่มีหรือดูแลไม่ได้ ผมเองไม่เคยหนีหายหรือติดต่อไม่ได้แต่อย่างใด ทาง ผจก.ได้ยืนยันแล้วว่าไม่มีการติดต่อมาเพื่อทวงถามหนี้ตลอด 3 ปีนี้

หลังจากจบรายการโหนกระแส แต่ตัวผมเองไม่เคยนิ่งนอนใจในเรื่องหนี้ก้อนนี้ เพียงแต่ผมจัดลำดับการใช้หนี้ไว้แล้ว (ซึ่งข้อนี้ผมยอมรับผิดที่ผมจัดการได้ช้าไปคับ) เงินที่ผมได้มาในส่วนของการจัดสรรใช้หนี้ผมได้จัดสรรไว้เป็นลำดับจะไม่ได้หามาเพื่อใช้หนี้ให้หมดใน 1-2 เดือนเพราะยังมีภาระหน้าที่อื่นๆที่จะต้องรับผิดชอบด้วย

ตลอดเวลาที่ผมเติบโตมา ผมแยกกันอยู่กับคุณแม่ตั้งแต่ อนุบาล 2 โดยมียายกับตาและน้า เลี้ยงมา แต่เมื่อผมโตขึ้น และได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหรือเรื่องอะไร ผมรับจบให้หมดเพราะผมคือลูก ดังนั้นวันนี้ผมได้แสดงความรับผิดชอบในฐานะลูก โดยการชำระหนี้ทั้งหมดให้กับคุณแม่ เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท (ครบตามจำนวนที่ท่าน ผอ. เรียกร้อง และได้แนบหลักฐานไว้แล้วคับ)

สุดท้ายนี้ต้องขอโทษครอบครัว ขอโทษแฟน ขอโทษที่ปล่อยให้เรื่องราวบานปลายไม่ได้ชำระหนี้ จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียในวันนี้ แต่ยังยืนยันในวันนี้คับว่าผมทำเต็มที่และรีบสุดในชีวิตแล้วคับ ขอโทษทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยนะคับ

ทั้งนี้หลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์ เข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก