สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ กล่าวถึงมติกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง หรือ “จี 7” วาระพิเศษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมมีมติยุติการใช้น้ำมันจากรัสเซีย “เป็นการถาวรภายในระยะเวลาที่เหมาะสม” เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน


อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศที่ยังคงต้องใช้พลังงานจากการนำเข้าเป็นหลัก มาตรการดังกล่าวถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก ท่ามกลางช่วงเวลาลักษณะนี้ หนึ่งในนั้นคือญี่ปุ่น ซึ่งจะต้องดำเนินการ “อย่างค่อยเป็นค่อยไปและเป็นขั้นตอน” โดยตั้งอยู่บนหลักการ “อันเป็นพื้นฐานของความจริง”


ด้านแหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่น และผู้สันทัดกรณีล้วนกล่าวไปในทางเดียวกันว่า ยังเป็นเรื่องยาก ที่ญี่ปุ่นจะตัดขาดจากพลังงานของรัสเซียอย่างถาวร ทั้งนี้ ญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 33 ล้านบาร์เรล เมื่อปีที่แล้ว คิดเป็น 4% ของน้ำมันทั้งหมดที่ญี่ปุ่นนำเข้าจากต่างประเทศ อยู่ในอันดับที่ 5 เช่นเดียวกับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว ( แอลเอ็นจี )


ขณะที่นับตั้งแต่กลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ไม่มีเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียจอดเทียบท่าเรือในญี่ปุ่นแม้แต่ลำเดียว และปริมาณการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียโดยญี่ปุ่น ตลอดช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านบาร์เรล ลดลง 33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า


อนึ่ง คิชิดะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะยุติการพึ่งพิงถ่านหินจากรัสเซียเช่นกัน แต่ยังไม่มีมาตรการออกมาอย่างเป็นรูปธรรมมากนัก และจะยังคงร่วมลงทุนในโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ “ซาคาลิน-2” ต่อไปด้วย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES