เมื่อวันที่ 4 พ.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายทวีศักดิ์ อุ่มบางตลาด ผู้สมัคร ส.ก. เบอร์ 1 เขตบางกะปิ ลงพื้นที่ตลาดบางกะปิ เขตวังทองหลาง เพื่อประชาสัมพันธ์ว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.65 พร้อมรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เขตบางกะปิถือว่าเป็นหนึ่งในเขตของ กทม. ที่มีตลาดจำนวนมาก มีปัญหาการจัดการขยะค่อนข้างสูง ถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆของ กทม. ประเด็นแรกการจัดการขยะต้องดีกว่านี้ และขยะที่ กทม.จัดเก็บล่าช้า ส่งผลปัญหากับการอุดตันของท่อระบายน้ำด้วย ซึ่งปัญหาตรงนี้ต้องแก้ไขปัญหาแบบควบคู่กันทั้งการระบายน้ำและการจัดการขยะ เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของชาวบางกะปิดีขึ้น

นายวิโรจน์กล่าวถึงช่วงสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเน้นการหาเสียงเชิงนโยบายเกี่ยวกับปัญหาเชิงโครงสร้างของกทม. และที่มาของงบประมาณ กทม. เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า นโยบายที่ตนผลักดัน ได้คิดถึงงบประมาณไว้แล้วว่าเกิดขึ้นได้จริง จับต้องได้ อาทิ การเพิ่มสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ เด็ก และคนพิการ รวมถึงการเพิ่มงบประมาณศูนย์เด็กเล็กจำนวนศูนย์ละ 5 ล้านบาท การกันงบประมาณจากผู้ว่าฯ กทม. ในส่วนสำนักงานเขตมาสู่ประชาชน 4,000 ล้านบาท ทั้งประชาชนที่อยู่ในและนอกชุมชน 50 เขต และในเรื่องของการอุดหนุนตั๋วรถเมล์ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะ นำประชาชนจากที่พักอาศัยนำมาป้อนยังระบบรถไฟฟ้าที่เป็นขนส่งมวลชนขนาดใหญ่

“เราต้องการให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เข้าถึงสวัสดิการของกทม.ที่ตอบโจทย์มากขึ้น อย่างเรื่องที่เราจะหารือกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการเพิ่มจำนวนคลินิกชุมชน เชื่อไหมว่าคน กทม.เวลาเจ็บป่วยซื้อยาทานเอง เนื่องจากคลินิกชุมชนที่เราใช้บัตรทอง มันไม่ครอบคลุม ทั่วก ทม.มีเพียง 200-300 แห่ง เทียบให้เห็นเลยว่า คลินิก 1 แห่ง ดูแลประชาชน 1 หมื่นคน แต่ สปสช.ดูแลเพียงหน่วยละ 3,000 คน”

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ที่ผ่านมา บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก รวมถึงกำลังใจดีมากๆ ประชาชนให้การตอบรับเกินคาด และเข้ามาสอบถามพูดคุยถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของ กทม.มากขึ้น สะท้อนว่าประชาชนเข้าใจในนโยบายที่ตนสื่อสาร ยิ่งเห็นได้ชัดในเรื่องงบประมาณที่จะจัดสรรอย่างเท่าเทียมให้ประชาชน และแก้ไขกติกา ข้อบัญญัติ กทม.เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการลงพื้นที่ตลาดบางกะปิ และศูนย์การค้าแฮปปี้แลนด์ มีประชาชนให้การต้อนรับนายวิโรจน์และทีมงาน รวมถึงมอบดอกดาวเรืองคล้องคอให้นายวิโรจน์ พร้อมให้กำลังใจและหวังว่าจะได้นายวิโรจน์เข้ามาเป็นผู้บริหาร กทม.

นอกจากนี้ นายวิโรจน์ พร้อมด้วยนายนฤธัช สีบุญเรือง ผู้สมัคร ส.ก เบอร์ 5 เขตวังทองหลาง พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่พบประชาชน ชุมชนจันทราสุข ซอยลาดพร้าว 87 เขตวังทองหลาง โดยมีนายพริษฐ์ (ไอติม) วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล ร่วมรับฟังปัญหาของประชาชนในชุมชนจันทราสุข พร้อมสาธิตนโยบาย “งบที่เลือกเองได้” ให้ประชาชนเลือกว่าอยากนำงบประมาณไปแก้ปัญหาด้านไหน

นายวิโรจน์ กล่าวว่าที่ผ่านมา 8 ปี ประชาชนในชุมชน นอกชุมชน ต้องการสิ่งใดก็จะไปเรียกร้องจากสำนักเขต เเต่เขตไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด งบที่เคยกระจุกที่สำนักงานเขต หากงบนี้จะใช้งานได้จริงต้องมีการกระจายงบ 4,000 ล้าน กระจายลง 2,000 ชุมชน เพื่อให้ชุมชนเเต่ละชุมชนได้มีงบประมาณสำรองไว้สำหรับดูเเลคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน

ส่วนนายพริษฐ์ กล่าวว่า เราต้องการเน้นไปที่นโยบายการสร้างการมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นต้นเเบบการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเเน่นอนว่า จะส่งเสริมการกระจายอำนาจมาสู่ประชาชน เพื่อสร้างรากฐานประชาธิปไตยให้เเข็งเเรง โดยเรามุ่งเน้นการกระจายงบประมาณให้ชุมชน ซึ่งพรรคก้าวไกล เรามองว่าเทคโนโลยีหลายอย่างๆ สามารถทำให้เกิดการกระจายอำนาจ เเละนำไปสู่การกำหนดงบประมาณเเละผลักดันเป็นนโยบายได้
.
“ประโยชน์ที่เราจะได้จากการที่ประชาชนกำหนดงบประมาณของตัวเอง คือ สร้างโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยเเท้จริง ประเด็นต่อมา ในเรื่องความโปร่งใส เมื่อเรากระจายงบประมาณให้ประชาชนได้กำหนดเอง ทำเกิดความโปร่งใส ประชาชนรู้สึกเป็นเจ้าของและอยากมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ประเด็นสุดท้ายคือประชาธิปไตย ที่เราสามารถสร้างขึ้นได้ในชุมชน เป็นต้นแบบที่เราจะผลักดันไปสู่การเมืองในระดับท้องถิ่น เเละในระดับประเทศ” นายพริษฐ์กล่าว

ทั้งนี้ จากการรับฟังปัญหา ประชาชนในชุมชนจันทราสุขเสนอโครงการที่อยากแก้ปัญหาถึง 10 ด้าน อาทิ การสร้างหลังคาคลุมลานชุมชน การสร้างงานให้ผู้สูงอายุ การปรับปรุงทางเข้าออก การปรับปรุงเสียงตามสาย เป็นต้น ทั้งนี้ จากการให้ประชาชนติดสติ๊กเกอร์โหวต พบว่าสิ่งที่ประชาชนในลุมชนจันทราสุขต้องการมากที่สุด 4 อันดับแรก คือ 1. การทำหลังคาลานชุมชนให้ชาวบ้านใช้เป็นลานชุมชน 2. การติดเครื่องปรับอากาศในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3. การปรับปรุงเส้นทางเชื่อมเข้าออก 4. การทำโครงการสร้างงานสร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุ