เมื่อวันที่ 4 พ.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงชุมชนคลองเตย เริ่มตั้งแต่ตลาดคลองเตย ชุมชนบล็อค 6 พบปะครู-ผู้ปกครอง ที่มูลนิธิดวงประทีปจากนั้นพบประชาวชุมชนสวนอ้อย พูดคุย รับฟังปัญหาชุมชน
นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาใหญ่สุดของเขตคลองเตยคือปัญหาที่อยู่อาศัย เฉพาะบริเวณเขตท่าเรือมีคนอาศัยอยู่กว่า 1 แสนคน โดยเรื่องที่เราเน้นคือศูนย์เด็กก่อนวัยเรียน ปัจจุบันยังไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ เช่น ครู และพี่เลี้ยง ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 15,000 บาท คงที่ทุกปี ไม่มีสวัสดิการ หยุด1วันก็ถูกหักเงิน ทำให้ครูไม่มีกำลังใจในการดูแลเด็ก ค่าอาหารเด็กปัจจุบันได้วันละ 20 บาท กทม.ต้องดูแลอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นนโยบายที่เราจะปรับปรุงศูนย์เด็กก่อนวัยเรียน ทุกเขตทุกแขวง นอกจากนี้ ควรขยายการรับดูแลเด็กรวมไปถึงเด็กอ่อนตั้งแต่ 3 เดือน-3 ปีด้วยเนื่องจากพ่อแม่บางคนที่ต้องทำงานและมีลูกอ่อนอาจจะต้องหาพี่เลี้ยงที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม การให้ความสำคัญกับศูนย์เด็กฯ เป็นหนึ่งในนโยบายที่เราเน้นทำน้อยแต่ได้เยอะ การลงทุนกับเด็กตั้งแต่ 0-6 ขวบ ซึ่งมีพัฒนาการสูงมาก ต่อไปจะพัฒนาได้ดีเพราะมีพื้นฐานแล้ว
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า อีกปัญหาหนึ่งในพื้นที่คือน้ำเน่าเสีย และปัญหาขยะบริเวณตลาดขนาดใหญ่ เช่น ตลาดคลองเตย ซึ่งมีคลองอยู่ในพื้นที่และมีสภาพน้ำเน่าเสีย ส่วนหนึ่งของน้ำเสียมาจากตลาดการแก้ปัญหาต้องเริ่มที่ตลาดเริ่มตั้งแต่การคัดแยกขยะบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงคลอง และใช้ตลาดเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาขยะและน้ำเน่าเสียในพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้ มีประชาชนสะท้อนปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณตลาดคลองเตย ในส่วนนี้กทม.ต้องประสานกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันวินัยการจราจรเพื่อบรรเทาปัญหา
เมื่อถามว่าลงพื้นคลองเตยมาหลายครั้ง คาดหวังว่าจะได้คะแนนในพื้นที่มากน้อยเพียงใด นายชัชชาติ กล่าวว่า คิดว่าได้ไม่เยอะจากการลงพื้นที่ตลาดเมื่อเช้าก็พอรู้ ตลาดไม่ค่อยตอบรับเท่าไหร่ ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่าบางพื้นที่เราอาจไม่เข้มแข็ง ขณะที่ผลโพลบางสำนัก ล่าสุดคะแนนความนิยมใกล้กับผู้สมัครท่านอื่นจึงเป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้ โค้งสุดท้ายต้องทำเต็มที่
ส่วนการจัดปราศรัยคงจัดเล็กๆ ไม่จัดใหญ่ ไม่อยากให้ประชาชนลำบากเดินทางมาฟัง ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดซึ่งเรามีการถ่ายทอดสดทางโซเชียล ประชาชนสามารถฟังได้เช่นกัน ทั้งนี้ เนื่องจากตนได้เบอร์ 8 จึงได้กำหนดวันปราศรัยในวันที่ 8 พ.ค. ที่ศาลา 8 เหลี่ยม สวนลุมพินี.
