เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายวัชระ กำพร นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เกษตรจังหวัดประจวบฯ พาณิชย์จังหวัด สภ.หัวหิน และ อส. ออกตรวจร้านแผงจำหน่ายทุเรียนป่าละอู บริเวณริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี เขต ต.ทับใต้-หินเหล็กไฟ ตามสั่งการของ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนนักท่องเที่ยว ว่ามีการหลอกลวงนำทุเรียนจากที่อื่นมาติดสติกเกอร์สวมรอยจำหน่ายว่าเป็นทุเรียนป่าละอู ทุเรียนชื่อดังใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งมีรสชาติอร่อย มีราคาดี และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค

ว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ กล่าวว่า จากที่นักท่องเที่ยวร้องเรียนเข้ามาว่าซื้อทุเรียนไปในราคาแพงแต่ไม่ใช่ทุเรียนป่าละอู ซึ่งทาง นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ก็ยืนยันแล้วว่าขณะนี้ทุเรียนป่าละอูยังไม่ออก ยังไม่มีทุเรียนแก่เลย จึงชัดเจนเลยว่าเป็นทุเรียนมาจากที่อื่นเอามาสวยรอย ถือว่าเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค ทางผู้ว่าฯ ท่านเป็นห่วงเรื่องนี้มาก ซึ่งผลการตรวจสอบสามารถจับกุมได้เจ้าของร้านขายทุเรียนเป็นชายได้ 1 ราย ส่งดำเนินคดีข้อหากระทำความผิดฐานหลอกลวงประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ขอความร่วมมือผู้ประกอบการว่าช่วยกันรักษาชื่อเสียงบ้านเรา กว่าที่เราจะสร้างมาได้ขนาดนี้ และฝากถึงผู้ประกอบการที่จำหน่ายทุเรียนอ่อน จะเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค ตอนนี้มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่จำหน่ายอย่างจริงจัง ขอร้องว่าอย่าทำ และก็ทุเรียนถ้าไม่ใช่ของป่าละอู ก็บอกนักท่องเที่ยวไปตรงๆ อย่าเอามาสวมรอย มันไม่คุ้มกับชื่อเสียงของบ้านเรา ไม่คุ้มกับการถูกดำเนินคดี” ว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ กล่าว

ด้านนายวัชระ กล่าวว่า กรณีที่หลอกขายทุเรียนป่าละอูให้กับประชาชน สร้างความเสียหายอย่างมาก มีผลกระทบเรื่องรสชาติ ความเชื่อมั่น เพราะว่าผู้บริโภคที่นำทุเรียนที่ไม่ใช่ทุเรียนป่าละอูไปทานจะรู้ว่ารสชาติมันไม่ใช่ ทำให้คนป่าละอูเสียชื่อเสียง ทาง จ.ประจวบฯ ก็จะเสียชื่อด้วย ซึ่งทางนายอำเภอหัวหินท่านเน้นมาตรการเรื่องคุณภาพเข้มมาก ทาง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ได้ประสานทางเกษตรอำเภอ นำคำสั่งของผู้ว่าฯ ที่ออกมาตรการเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อมาปกป้องสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่และทุเรียนป่าละอู.