นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการจัดอบรมปฐมนิเทศ และทำสัญญาการรับทุนการศึกษาของนักกีฬาและบุคลากรกีฬา ประจำปีการศึกษา 2567 โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้าร่วม ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 67
นายสรวงศ์ เทียนทอง กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายเพื่อการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา คุ้มครอง ช่วยเหลือและจัดสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นอีกกองทุนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษาที่เป็นนักกีฬาและบุคลากรกีฬา ที่มีผลงานทางด้านการแข่งขันกีฬาเป็นที่ประจักษ์และมีผลการเรียนที่ดี ซึ่งให้การดูแลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา โดยให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่าย เพื่อการศึกษาอย่างครอบคลุม และเป็นระบบในลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน และค่าบํารุงการศึกษา แต่ละภาคการศึกษาตามที่ระเบียบกระทรวงการคลังกำหนด และยังเพิ่มโอกาสการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ในกรณีที่ผู้ขอรับทุนรายนั้นๆ มีความสามารถ ด้านการศึกษาและกีฬาตามที่หลักเกณฑ์กำหนด
ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีขั้นตอนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาอย่างชัดเจน โดยผ่านกระบวนการพิจารณาจากคณะอนุกรรมด้านสวัสดิการกีฬา และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้ดำเนินการให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักกีฬาและบุคลากรกีฬา ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 เป็นต้นมาจนถึงปีการศึกษา 2567 รวม 19 ปี มีนักกีฬาและบุคลากรกีฬา ได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษาจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จำนวน 3,392 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 416,802,900 บาท
สำหรับในการพิจารณาให้การสนับสนุนทุนการศึกษาประจำปีการศึกษา 2567 ตามหลักเกณฑ์ ประกาศกำหนดการพิจารณาให้ทุนการศึกษา มีผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับทุนการสนับสนุนทุนการศึกษา เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 43,108,300 บาท มีรายละเอียด ดังนี้ 1. ผู้ได้รับทุนรายใหม่ จำนวน 474 คน รวมเป็นเงิน 29,779,700 บาท ประกอบด้วย 1.1 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ผ่านเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 272 คน รวมเป็นเงิน 19,112,100 บาท, 1.2 สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ผ่านเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 202 คน รวมเป็นเงิน 10,667,600 บาท และ 2. ผู้ที่ได้รับทุนต่อเนื่อง สังกัดสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 201 คน เป็นเงิน 13,328,600 บาท
