สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนเรียกประชุมคณะกรรมการโปลิตบูโร เพื่อวิเคราะห์และศึกษาสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธาน

สมาชิกโปลิตบูโรเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการปรับปรุงประเด็นที่ให้ความสำคัญ และเพิ่มประสิทธิผลของมาตรการยกระดับเศรษฐกิจ พร้อมให้คำมั่นในการตอบสนองต่อความกังวลของประชาชน ต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งเตรียมปรับนโยบายจำกัดการซื้อที่อยู่อาศัย, ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง, เสริมสร้างการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, ปรับปรุงการดูแลผู้สูงอายุและคนหนุ่มสาว และผลักดันให้มีการจ้างงานคนรุ่นใหม่มากขึ้น

ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนกำลังพิจารณาอัดฉีดงบประมาณมากกว่า 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.5 ล้านล้านบาท) เข้าสู่ธนาคารรัฐขนาดใหญ่ของประเทศ ถือเป็นการอัดฉีดเงินทุนครั้งใหญ่ครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลก เมื่อปี 2551

แหล่งข่าวของบลูมเบิร์กกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้ธนาคารต่าง ๆ มีช่องทางปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจมากขึ้น ผ่านการออก “พันธบัตรรัฐบาลพิเศษชุดใหม่” อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการยังไม่เสร็จสมบูรณ์

นอกจากนั้น การประกาศของธนาคารประชาชนจีน (พีบีโอซี) เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ยังครอบคลุมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และนโยบายมุ่งส่งเสริมการซื้อบ้าน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ส่งผลให้หุ้นในตลาดเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงพุ่งขึ้นถึงร้อยละ 9 ในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า รัฐบาลจีนยังคงต้องพยายามอีกมาก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 5 ในปีนี้ ขณะที่การเติบโตในไตรมาสที่ 2 ต่ำกว่าที่คาดไว้ คืออยู่ที่ร้อยละ 4.7 และอัตราการว่างงานของเยาวชนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ถึงร้อยละ 18.8 เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES