สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน แถลงผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ต่อที่ประชุมร่วมพรรคการเมืองโลก ซึ่งมีตัวแทนจากกมากกว่า 160 ประเทศเข้าร่วม เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี การสถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์ มีเนื้อหาสำคัญในตอนหนึ่ง เน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือแบบพหุภาคี เพื่อต้านทานการใช้อิทธิพล และการใช้อำนาจฝ่ายเดียวเพื่อกดขี่ผู้อื่น
New China TV
ผู้นำจีน กล่าวต่อไปว่า การบริหารประเทศด้วยหลักการที่รัฐบาลของประเทศนั้น "ต้องได้ก่อน" เป็นการมองโลกมุมแคบ แออัดยัดเยียด และจุดชนวนการแข่งขันกันอย่างก้าวร้าว สื่อถึงนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันชุดปัจจุบันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังคงสานต่อในด้านที่เกี่ยวข้องกับจีน ตอกย้ำว่า สหรัฐยังคงถือว่ารัฐบาลปักกิ่ง "เป็นคู่แข่งที่สำคัญทางยุทธศาสตร์"
New China TV
ขณะเดียวกัน สีเรียกร้อง "การทลายกำแพงปิดกั้นด้านเทคโนโลยี" และ "การยุติแนวคิดการพัฒนาแบบแยกตัว" แต่ในทางกลับกันขอให้ทุกภาคส่วน "ร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์ประชาคมโลกที่มีอนาคตสดใสร่วมกัน"
ทั้งนี้ ผู้นำจีนไม่ได้กล่าวถึงประเทศหนึ่งประเทศใดอย่างเจาะจง อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายตีความไปในทางเดียวกัน ว่าหมายถึงสหรัฐ โดยย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่พรรคคอมมิวนิสต์จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบวันเกิดของพรรคอย่างยิ่งใหญ่ ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในกรุงปักกิ่ง สีกล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์คือ "สถาบันอันเป็นเสาหลัก" ของชาติ "อุดมการณ์สังคมนิยมเท่านั้นที่จะสามารถปกปักรักษาความเป็นชาติของจีนเอาไว้ได้" 
นอกจากนี้ จีนจะไม่มีทางเปิดโอกาสให้ "กองกำลังต่างชาติ" เข้ามา "รังแกและกดดัน" เพราะทุกภาคส่วนในจีนจะสามัคคีกัน "มีชัยชนะ" เหนือผู้รุกราน ซึ่งจะไม่มีทางทำลาย "กำแพงเหล็กกล้า" ที่หล่อหลอมจากจิตวิญญาณอันทรงพลังของประชากร 1,400 ล้านคน.

เครดิตภาพ : AP