สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ว่านายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวหลังพบหารือกับนางเรตโน มาร์ซูดี รมว.กระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย ที่กรุงจาการ์ตา เมื่อวันอังคาร ว่ารัฐบาลมอสโกให้ความสำคัญระดับสูงสุด กับจุดยืนของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) ให้เป็นพื้นฐานสำคัญของการคลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมา 
ทั้งนี้ ลาฟรอฟขยายความคำพูดของตัวเอง ว่าเขาหมายถึง "ฉันทามติ 5 ข้อ" ซึ่งอาเซียนประกาศหลังการประชุมวาระพิเศษ ที่กรุงจาการ์ตา เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เรียกร้องต่อคู่กรณีทุกฝ่ายในเมียนมา ประกอบด้วย การยุติความรุนแรง การเจรจาอย่างสันติเพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ การแต่งตั้งทูตพิเศษในนามอาเซียนเพื่อทำหน้าที่คนกลางในการหารือระหว่างคู่กรณี การเปิดรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากองค์กรกลางระหว่างประเทศ และการที่เมียนมาอนุญาตให้ทูตพิเศษอาเซียนเข้าประเทศ
สำหรับการเยือนอาเซียนของลาฟรอฟ เกิดขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์ หลังพล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เยือนรัสเซีย เมื่อปลายเดือนที่แล้ว เพื่อเข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคง ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และพบหารือกับพล.อ.เซอร์เก ชอยกู รมว.กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ที่กรุงมอสโก โดยพล.อ.มิน อ่อง หล่าย แสดงความขอบคุณและซาบซึ้งใจ ต่อความสนับสนุนทางทหารจากรัฐบาลมอสโก และแสดงความเชื่อมั่นด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศมีแต่จะพัฒนายิ่งขึ้นไป
 ขณะที่พล.อ.ชอยกู กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับเมียนมา ว่า "ระยะเวลา" เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดี ในการที่เมียนมาเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และไว้วางใจได้สำหรับรัสเซีย และความร่วมมือทางทหารระดับทวิภาคีถือเป็น "องค์ประกอบสำคัญ" ของความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับเมียนมา.

เครดิตภาพ : REUTERS