เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านสนามบิน หมู่ที่ 11 ตำบลเขากวางทอง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีสัตว์ป่าซึ่งคาดว่าจะเป็นหมีควาย บุกเข้าหักกินข้าวโพดของเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับเขาปลาร้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยได้พบกับ นายแดง นุ่มบุรี อายุ 62 ปี เจ้าของไร่ข้าวโพด พร้อมกับ นายปารเมศ เพียรพักดี หัวหน้าชุดเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ก่อนร่วมกันลงตรวจสอบพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่อนุรักษ์อีก 3 นาย ไปยังตรงจุดที่พบร่องรอยที่คาดว่าจะเป็นรอยเท้าหมี ซึ่งอยู่ห่างจากตีนเขาปลาร้า ราว 500 เมตร ถึงไร่ข้าว และไร่ข้าวโพดห่างจากบ้านประมาณ 300 เมตร โดยการตรวจสอบพื้นที่ไร่อ้อยประมาณ 7 ไร่ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมย ซึ่งพบร่องรอยของการหักฝักข้าวโพดจำนวนหนึ่ง และพบร่องรอยที่คล้ายกับอุ้งตีนหมีตามที่ได้รับแจ้งจริง

นายแดง เล่าว่า ช่วงเย็นวานนี้ (9 ก.ย.) ตนได้เดินเฝ้าระวังลิงป่าที่จะแอบเข้ามาทำลายกัดกินข้าวโพดในไร่อยู่บ่อยครั้ง แต่ระหว่างที่เข้าไปตรวจสอบอยู่นั้นก็พบว่า มีฝักข้าวโพดถูกหักกินจำนวนหนึ่ง แต่ดูแล้วน่าจะไม่ใช่ฝีมือของลิงป่า เนื่องจากฝักข้าวโพดนั้นถูกหักในลักษณะคล้ายกับคน แต่เมื่อดูที่พื้นตามโคลนต้นข้าวโพดแล้วนั้น ก็พบว่ามีร่องรอยเท้าที่คาดว่าจะเป็นหมีควาย เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือของตนเองอยู่จำนวนหลายจุด จึงรีบกลับบ้านทันทีโดยไม่ทันถ่ายรูปเก็บไว้เพราะกลัวว่าหมีควายจะยังอยู่ในพื้นที่ พร้อมกับได้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้ทราบเรื่องดังกล่าว ก่อนที่ทางผู้ใหญ่บ้านจะแจ้งเหตุต่อไปยังเจ้าหน้าที่อนุรักษ์เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ให้เร่งเข้าตรวจสอบ

แต่เมื่อวานนี้ในพื้นที่เกิดฝนตกหนักกว่า 1 ชั่วโมง ล่วงเลยไปจนค่ำ จึงทำให้เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ไม่สามารถเข้าตรวจได้ทันที จึงได้เข้ามาตรวจสอบกันในวันนี้แทน จึงทำให้ตอนนี้ต้องระวังทั้งพืชผลในไร่ และระวังความปลอดภัยของตัวเอง ส่วนการป้องกันนั้นช่วงนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยลงพื้นที่ช่วยดูด้วยเป็นระยะ พร้อมกับได้ติดตั้งไฟหม้อน็อกวัวไว้ให้โดยรอบไร่ตรงจุดชายป่าที่คาดว่าหมีควายนั้นจะเดินเข้ามาในไร่ เพื่อเป็นการป้องกันไว้ชั่วคราว

ด้านนายปารเมศ หัวหน้าชุดเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กล่าวว่า เขาปลาร้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุนแห่งนี้ เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยหลายชนิด เช่น ลิงป่า เลี้ยงผา และหมีเป็นต้น ซึ่งจากการตรวจสอบในครั้งนี้นั้นยังชี้ชัดไม่ได้ว่าเป็นหมีจริงหรือไม่ เนื่องจากร่องรอยถูกชะล้างจากฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่าน แต่ยังสามารถเห็นลอยยุบที่พื้นดินได้อยู่ แต่เหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นเช่นกันเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นได้จัดเจ้าหน้าที่ให้คอยเข้ามาตรวจการณ์และพักแรมค้างคืนเพื่อเฝ้าระวัง ซึ่งหากพบว่าเป็นหมีจริงก็จะเร่งผลักดันทันที แต่ยังไม่ถึงขั้นนำกรงดักสัตว์มาดักจับ พร้อมกันนี้ได้เตือนชาวบ้านที่อยู่ในเขตรัศมีให้คอยเฝ้าระวังและห้ามออกจากบ้านในช่วงกลางคืนและยามวิกาลเพื่อความปลอดภัย พร้อมยังได้แนะนำให้เจ้าของไร่ข้าวโพด ใช้ลวดน็อกไฟจากแบตเตอรี่ไปขึงล้อมตรงจุดเสี่ยง เพื่อป้องกันหมีบุกเมื่อถูกเส้นลวดไฟจะช๊อตอ่อนๆ ให้ตกใจวิ่งหนีไปอีกด้วย