นางสายชล ทรัพย์มากอุดม รักษาการหัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจสัมพันธ์ เอไอเอส เปิดเผยว่า ได้ลงนามความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. เพื่อร่วมกันส่งต่อองค์ความรู้เนื้อหาหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ผ่านเครือข่ายและหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศ ไปยังภาคประชาชน ทั้งเด็ก เยาวชน กลุ่มคนทำงาน ผู้สูงอายุ และคนพิการ ให้มีภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ เป็นพลเมืองดิจิทัลที่รู้เท่าทันการใช้งานออนไลน์ มีทักษะดิจิทัล สามารถรับมือและใช้ชีวิตอยู่ในโลกดิจิทัลได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และสร้างสรรค์ ผ่านกลไกการทำงานของ สกมช.ที่มีหน่วยงานเครือข่ายการทำงานครอบคลุมในระดับตำบล อำเภอทั่วประเทศ ทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในรูปแบบของจัดกิจกรรม การลงพื้นที่ หรือแม้แต่การร่วมกันสื่อสารสร้างองค์ความรู้ในช่องทางต่างๆ ร่วมกัน

พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจหลักของ สกมช.คือ การมุ่งมั่นลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อยกระดับประเทศให้มีความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยยังคงเผชิญกับปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เราจึงเพิ่มความเข้มข้นของการทำงานโดยบูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในการทำงานเพื่อวางรากฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ โดยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ความเสี่ยงด้านไซเบอร์ของประเทศให้แก่ประชาชน เพื่อให้รู้เท่าทันและสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“สำหรับความร่วมมือกับ AIS รวมถึง กรมสุขภาพจิต และ มจธ.ในครั้งนี้ นับเป็นอีกมิติหนึ่งขององค์กรที่จะนำความรู้ด้านทักษะดิจิทัลผ่านหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ เข้าไปบูรณาการในภารกิจหลักของสกมช.ที่มุ่งสร้างความตระหนักรู้และทักษะด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้เข้าถึงประชาชนทุกระดับ  ผ่านเครือข่ายการทำงานของ สกมช. ในรูปแบบของการทำงานเชิงรุกด้วยการสอดแทรกเนื้อหาหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ผ่านการจัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องภัยไซเบอร์ในระดับภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้และวัดผลด้วยการทดลองทำแบบทดสอบจริง พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ให้เกิดความหลากหลาย รวมทั้งหลักสูตรอุ่นไจไซเบอร์ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของ สกมช.เป็นรูปแบบของการทำงานที่เปิดกว้างให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกวัย ได้ศึกษาและเพิ่มพูนองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อสร้างการตระหนักรู้และให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ มีภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ สามารถปรับตัวในการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพและใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย”.