สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ โทรศัพท์เข้ามาในรายการข่าวเช้า ของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นการให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการครั้งแรก นับตั้งแต่ผ่านพ้นการเลือกตั้งแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยทรัมป์ยังคงย้ำว่าเขา "คือผู้ชนะ" เหนือนายโจ ไบเดน และการเลือกตั้งครั้งนี้ "มีการทุจริต" แต่ยังคงปฏิเสธให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐกล่าวในช่วงหนึ่งของการสนทนา ว่ากระทรวงยุติธรรมและสำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) "อาจมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการทุจริตการเลือกตั้งครั้งนี้" และจนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานทั้งสองแห่ง "หายสาบสูญ" ด้านกระทรวงยุติธรรมและเอฟบีไอปฏิเสธแสดงท่าทีต่อการให้สัมภาษณ์ของทรัมป์
สำหรับนายวิลเลียม บาร์ รมว.กระทรวงยุติธรรมคนปัจจุบันของสหรัฐ อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ต้นปี 2562 ส่วนนายคริสโตเฟอร์ เรย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเอฟบีไอตั้งแต่กลางปี 2560 ทั้งสองคนได้รับการเสนอชื่อโดยทรัมป์ และยังไม่เคยให้ความเห็นอย่างเป็นทางการต่อการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไป แม้ 1 สัปดาห์หลังวันลงคะแนน บาร์ส่งหนังสือถึงเรย์ อัยการสูงสุดของทั้ง 50 รัฐ และกรุงวอชิงตันซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษ ขอให้ทุกคน "ใช้อำนาจภายในขอบเขตของตัวเอง" ตรวจสอบ "ข้อกล่าวหาและความผิดปกติที่เป็นรูปธรรม" ต่อกระบวนการใช้สิทธิ์และนับคะแนน
ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดรายการ ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ "มีบัตรผี" "มีการโกง" และ "มีการกีดกันไม่ให้ประชาชนที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันได้ลงคะแนน" พร้อมทั้งยืนยันการเดินหน้าต่อสู้ตามขั้นตอนทางกฎหมาย แม้ยังไม่มีใครรวมถึงตัวทรัมป์เองสามารถกล่าวได้อย่างมั่นใจ ว่าคณะตุลาการศาลฎีกาในกรุงวอชิงตันจะรับคำร้องของผู้นำสหรัฐหรือไม่ เนื่องจากศาลของหลายรัฐต่างยกคำร้องจากทีมงานหาเสียงของทรัมป์ ด้วยเหตุผลคล้ายคลึงกัน ว่าผู้ร้องเรียน "ไม่มีหลักฐานชัดเจน" เกี่ยวกับการฉ้อโกงการเลือกตั้งครั้งนี้
อนึ่ง ทรัมป์ทิ้งท้ายการสนทนาครั้งนี้ ยืนยันจะไม่มีการแถลง "ยอมรับความปราชัยอย่างเป็นทางการ" ต่อไบเดน และ "ยังไม่เปลี่ยนความคิด" ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการทุจริต แม้ไบเดนจะรับตำแหน่งและเริ่มงานอย่างเป็นทางการ ในช่วงเที่ยงของวันที่ 20 ม.ค. 2564 ขณะที่หน่วยงานหลายแห่งของรัฐบาลกลางเริ่มขั้นตอนถ่ายโอนอำนาจ ให้แก่ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่แล้ว.
เครดิตภาพ : REUTERS