สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ว่านายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ ว่าภายหลัง "ทีมสายเหยี่ยว" ไม่ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ "ประกาศสงครามโดยตรง" กับอิหร่าน จึงวางแผนใหม่ด้วยการดึงสหราชอาณาจักรให้เข้ามาติดกับดักครั้งใหญ่ เพื่อพยายามจุดชนวนให้เกิดการเผชิญหน้าทางอาวุธในอ่าวเปอร์เซีย ระหว่างอิหร่าน กับสหราชอาณาจักร "ที่จะถูกหลอก" ให้เป็นทัพหน้า จากกรณีกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี ) ยึดเรือบรรทุกน้ำมัน "สเตนา อิมเพโร" ของสหราชอาณาจักร บริเวณช่องแคบฮอร์มุซ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน
ทั้งนี้ "ทีมสายเหยี่ยว" หรือบางครั้งซารีฟเรียกว่า "ทีมบี" หมายถึงนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราขกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย และเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซาเย็ด อัล นาห์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี )
ขณะเดียวกัน ซารีฟเตือนสหราชอาณาจักร "อย่าหลงผิด" และกระทำการใดก็ตามที่จะกลายเป็นการจุดชนวนความรุนแรงให้ "เข้าทาง" ทีมสายเหยี่ยว ด้านกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาระหว่างเรือสเตนา อิมเพโร กับเรือฟริเกต เอชเอ็มเอส มอนต์โรส และเรือลาดตระเวนเร็วของไออาร์จีซี คลิปดังกล่าวมาจากสถาบันวิจัยความเสี่ยงด้านพาณิชย์นาวี "ไดรแอด โกลบอล" ในกรุงลอนดอน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าได้รับมาอย่างไร แต่บทสนทนาในตอนหนึ่งเป็นเสียงของเจ้าหน้าที่อิหร่าน บอกให้เรือสเตนา อิมเพโร "เปลี่ยนเส้นทาง" โดยเตือนด้วยว่า "หากทำตามแล้วจะปลอดภัย" ต่อจากนั้นเป็นการสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่อิหร่านกับเรือ เอชเอ็มเอส มอนต์โรส ว่า "ฟ็อกซ์ทร็อต 236 นี่คือเรือตรวจการณ์ซีปาห์ ไม่มีเจตนายั่วยุและเผชิญหน้าแต่ต้องการตรวจเรือสเตนา อิมเพโร ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย".
เครดิตภาพ : AP