ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน อาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cybercrime) เป็นการทำความผิดที่สร้างผลกระทบให้ทั่วโลก รวมทั้งสังคมไทย เหยื่อหลายรายต้องสูญเสียทรัพย์สิน บ้างก็ถูกล่อลวงละเมิดทางเพศ และมีจำนวนไม่น้อยถึงขั้นตัดสินใจคิดสั้น มันจึงเป็นปัญหาใหญ่ในการใช้ชีวิตของประชาชนคนทำมาหากิน โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกดูดเงินคนไทยไปมากมายมหาศาล

ทำให้ พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล หรือ ผกก.แก้ว ผกก.1 บก.สอท.5 ต้องใช้ความรู้ความสามารถในการสืบสวนแกะรอยหาพวกมิจฉาชีพเหล่านี้ และหนึ่งในฟันเฟืองของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็คือ “บัญชีม้า” เนื่องจากพวกนี้ถูกให้เปิดบัญชีเพื่อให้ใช้เป็นเส้นทางในการโอนเงินเหยื่อผ่านเข้าบัญชี จึงจำเป็นต้องไล่ล่าจับกุมให้ได้มากที่สุด

ยกตัวอย่างคดีที่ “ผกก.แก้ว” นำกำลังจับกุม นายธานุศักดิ์ อายุ 21 ปี ใน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเจ้าตัวอยู่ในขบวนการ Hybrid Scam หลอกให้เหยื่อรักแล้วลงทุน ใช้โปรไฟล์เป็นสาวสวยทักทายตีสนิทชวนให้ลงทุนซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล ช่วงแรกทำกำไรและเบิกถอนเงินได้ตามปกติ กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีกว่า 2,588,000 บาท จากนั้นไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดย นายธานุศักดิ์ ถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชีม้าราคาบัญชีละ 700 บาท ก่อนจะรวบรวมบัญชีม้าส่งให้นายทุนใหญ่อีกทอดหนึ่ง

หรืออีกคดีที่ “ผกก.แก้ว” ลุยจับกุมคือ การรวบตัว นายโด้ ที่เป็นหัวหน้าวิน จยย.อยู่ใน อ.เมืองนนทบุรี เพราะถูกว่าจ้างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หาคนมาเปิด “บัญชีม้า” เพื่อใช้โอนเงินในการโทรฯหลอกลวงประชาชน ได้ค่าเปิดบัญชีละ 1,500 บาท หากหาได้มากเท่าไรก็จะได้รับค่าตอบแทนมากขึ้น จึงไปชักชวนลูกวินให้พากันมาเปิดบัญชีกันเพียบ มีผู้เสียหายแล้วกว่า 24 ราย สร้างความเสียหายรวมกว่า 6.2 ล้านบาท

สำหรับประวัติ พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล หรือ ผกก.แก้ว เจ้าตัวเกิดเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2524 เป็นชาวกรุงเทพฯ เรียนจบจากโรงเรียนศรีวิกรม์ ต่อด้วยโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 41 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 57 เริ่มเข้าสู่เส้นทางสีกากีในตำแหน่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ก่อนที่ผู้บังคับบัญชาเล็งเห็นความสามารถจึงย้ายให้มาดำรงตำแหน่ง รอง สว.สส.สน.ลุมพินี กระทั่งได้ขึ้นเป็น สว.ปชส.บช.น. ก่อนจะย้ายไปเป็น สว.สส.สน.ตลาดพลู ตามด้วย สว.สส.สน.ลุมพินี และเป็น สว.สส.สภ.สำโรงเหนือ

จากนั้นได้สมัครใจเข้าไปเป็นนายตำรวจปกครองที่ รร.นรต. ก่อนที่จะได้รับความไว้วางใจโยกมาเป็น นายเวร พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย อดีต รอง ผบ.ตร. จากนั้นได้ขึ้นเป็น ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ และโยกมาเป็น ผกก.4 บก.สอท.1 กระทั่งมาดำรงตำแผน่งเป็น ผกก.1 บก.สอท.5 ในปัจจุบัน เพื่อดูแลงานด้านอาชญากรรมทางไซเบอร์อย่างเต็มตัว ซึ่งเป็นโจทย์ท้าทายของตำรวจไทยในตอนนี้

ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น นรต.57 ก็มีหลายนาย อาทิ พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม รอง ผบก.น.4, พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ, พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป.

วิสัยทัศน์ในการทำงานยึดถืออยู่ 2 ปรัชญา “ตั้งใจทำงานทุกหน้าที่ให้ดีที่สุด” และ “ไม่ต้องยืนในจุดที่ดีที่สุด เเค่มีความสุขในจุดที่ยืน”