ความเชื่อมโยงระหว่างโควิด-19 กับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

2. เซลล์ในลูกอัณฑะถูกทำลายเสียหาย ไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนซึ่งมีความสำคัญต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ผลการศึกษาล่าสุดชี้ว่าไวรัสโควิด-19 อาจทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและภาวะเจริญพันธุ์ในเพศชายลดลง

ไวรัสโควิด-19 มีส่วนประกอบสำคัญ คือ โปรตีนตรงส่วนหนาม (spike protein) บนผิวของไวรัส ซึ่งมีรูปร่างเฉพาะเจาะจง สามารถจับกับโปรตีน (angiotensin-converting enzyme 2 : ACE2) บนผิวของเซลล์มนุษย์ และทำให้ไวรัสสามารถเข้าสู่เซลล์มนุษย์ได้ โดยบริเวณของโปรตีนตรงส่วนหนามที่ทำหน้าที่จับกับโปรตีนเรียกว่า receptor-binding domain (RBD) ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนมากมาย เนื่องจากโปรตีนชนิดนี้ (ACE2) บนผิวเซลล์ของลูกอัณฑะมีจำนวนมาก

นักวิจัยเชื่อว่าไวรัสโควิด-19 ใช้โปรตีนดังกล่าวเพื่อติดเชื้อลูกอัณฑะ เพราะลูกอัณฑะคือแหล่งผลิตฮอร์โมนเพศชายและตัวอสุจิในผู้ชาย ดังนั้นไวรัสอาจส่งผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศและภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาหนึ่งในอิตาลีพบว่า ในผู้ชายที่หายจากโรคโควิด-19 มีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำกว่าปกติ นักวิจัยกล่าวว่า ผลงานวิจัยดังกล่าวเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับผู้ชายที่กำลังประสบปัญหากับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และเริ่มมีอาการใหม่ ควรตรวจฮอร์โมนเพศชายเพื่อให้แน่ใจว่าลูกอัณฑะทำงานได้ดี

3.ผลกระทบด้านสุขภาพจิต ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ในช่วงโรคระบาดใหญ่ของโควิด-19 คนส่วนใหญ่จะประสบปัญหากับความทุกข์ทางอารมณ์ในระดับหนึ่งหลังการแยกตัว การเว้นระยะห่างทางสังคม การสูญเสียญาติและเพื่อนฝูง และความท้าทายทางเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้เพียงอย่างเดียวสามารถทำลายแรงขับทางเพศของท่านได้ อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากนี้ อาการป่วยทางจิตของผู้ที่ฟื้นตัวจากไวรัส โดยเฉพาะผู้ป่วย
โควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงและเรื้อรัง ซึ่งยังคงมีอาการหรือผลข้างเคียง อาจมีความเสี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

กิจกรรมทางเพศมีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับสุขภาพจิต นักวิจัยเชื่อว่า เพื่อให้มีสมรรถภาพทางเพศที่ดี ท่านต้องดูแลรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายและมีความรู้การมีเพศสัมพันธ์ร่วมด้วยกัน.

—————————————
ศ.น.ท.ดร.นพ.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล