นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรค ปชป. และอดีต ส.ส.พัทลุงหลายสมัย แม้จะสอบตกเพราะความตกต่ำของ ปชป. และ รธน.ฉบับสืบทอดอำนาจ แต่นิพิฏฐ์ไม่เคยสยบ เช่น แม้จะร่วม รบ.เดียวกัน แต่กล้าเปิดโปงว่า ส.ส.ภูมิใจไทย ให้คนเสียบบัตรแทนทั้งที่เจ้าตัวอยู่เมืองจีน ตอนพิจารณางบประมาณปี 63 โดยไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม
ด้วยวัย 64 ปี นิพิฏฐ์น่าจะผ่านทั้ง 14 ต.ค. 16 ทั้ง 6 ต.ค. 19 ทั้ง พ.ค. 35 และ พ.ค. 53 ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ได้เห็นได้รู้ถึงการฆ่ากันกลางเมือง ใช้ไม้ตอกลิ่มที่อวัยวะเพศ มีการลากศพแล้วใช้เก้าอี้ฟาด (ศพ) อย่างไม่ปรานี กลางสนามหลวง โดยมีเด็ก ๆ ยืนมุงดูด้วยรอยยิ้มระรื่น แต่กลายเป็นภาพสะเทือนใจไปทั้งโลก
นั่นเป็นเหตุการณ์ 6 ต.ค. 19 ที่นศ.ประชาชนหนีเข้าป่าร่วมมือกับ พคท.จนป่าแตก จบด้วยการนิรโทษกรรมจากนโยบาย 66/23 เพื่อให้ นศ.คืนเมือง กระทั่ง พ.ค.53 ที่คนเสื้อแดงตายเป็นร้อย และ 6 ศพกลางวัดปทุมฯ ในเขตอภัยทาน
กระทั่งเคลื่อนผ่านถึงการเคลื่อนไหวของคนเจนวายที่กำลังปะทะทางความคิดกับคนรุ่นเก่าอย่างรุนแรง จนต้องเข้าไปอยู่ในคุกนับร้อยคนด้วยคดี ผิด ม.112 ม.116 ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งล่าสุด ผิด ม.110 ที่มีโทษขั้นต่ำ 16 ปี
ประเทศชาติแตกเป็นเสี่ยง ๆ ความยุติธรรมถูกตั้งคำถามมากมาย เราเลือดเย็นพอจะเห็นอีกฝ่ายตายไปต่อหน้า และสะใจกับความพินาศที่เกิดขึ้น สถานการณ์เหมือนกำลังจะวนลูปกลับไปสู่ที่เดิม แล้วประเทศชาติจะพัฒนาไปได้อย่างไร
เมื่อเร็ว ๆ นี้
นิพิฏฐ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กซึ่งขอนำมาลงด้วยความเคารพในความคิดที่นักการเมืองคนนี้ได้แสดงออกอย่างจริงใจ เพื่อหาทางออกให้บ้านเมืองแบบตรงไปตรงมา โดยเฉพาะคนที่ได้ชื่อว่าอยู่พรรคอนุรักษ์อย่าง ปชป. และยังเคยร่วม กปปส.มาแล้ว
นิพิฏฐ์เขียนไว้ว่า มีคนถามอยู่เรื่อยว่า ช่วงหลัง ๆ นี้ทำไมถึงโพสต์เรื่องการชุมนุมของเยาวชนบ่อยครั้ง สรุปต้องการอะไรแน่ ขอตอบว่า ต้องการเห็นการเจรจาระหว่างผู้ชุมนุมกับผู้มีอำนาจ แม้ข้อเรียกร้องบางเรื่องไร้เดียงสา เป็นไปไม่ได้ บางเรื่องก็น่าหงุดหงิด
แต่พยายามคิดว่าเขาเพียงต้องการสะท้อนความต้องการ...จะถูกผิดเป็นเรื่องที่ต้องนั่งคุยกันและเจรจากัน ไม่มีการชุมนุมที่ไหนในโลกจบลงด้วยด้วยการไม่พูดคุยกัน มีแต่จะสร้างความขัดแย้ง สร้างความรุนแรง สร้างบาดแผลในใจให้ทุกฝ่าย ความพยายามของการพูดคุยกันคือคนไทยแตกแยกกันจนกลายเป็นความเกลียด
เหมือนจะร่วมแผ่นดินเดียวกันไม่ได้
นิพิฏฐ์เขียนต่อว่า ปัญหาคือ เราไม่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน
ท่ามกลางความเห็นต่าง มุ่งแพ้ชนะอย่างเดียว...มีความอดทนอดกลั้นในการฟังความเห็นต่างมากน้อยแค่ไหน ใช้ hate speech จนติดปาก...ความจริงความขัดแย้งครั้งนี้ไม่ยาก เพราะไม่มีหรือ (อาจจะ) มีพรรคการเมืองเข้าไปสนับสนุน แต่ก็นับว่าน้อย …. นิพิฏฐ์ ว่าไว้
นี่เป็นการโพสต์ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผู้ชุมนุมถูกจับกุมคุมขังโดยไม่ได้รับการประกันตัว แม้ศาลจะยังไม่มีคำพิพากษา
เพนกวิน-พริษฐ์ อดอาหารมา 2 สัปดาห์แล้ว
รุ้ง-ปนัสยา ก็อดอาหาร
สมยศ พฤกษาเกษมสุข เรียกร้องให้ประหารชีวิตตนเอง เพราะเพิ่งออกจากคุกมา และกำลังดีใจที่เสื้อยืดที่เค้าทำขายได้ถึง 2 หมื่นกว่าบาท แต่ต้องติดคุกอีก
หมอลำแบงค์ แอมมี่ บอตทอมบลูส์ และ ทนายอานนท์ นำภา ที่เพิ่งร้องต่อศาลให้รักษาชีวิตของพวกตน เพราะมีคนเข้าไปเอาตัวมาตรวจโควิดตั้งแต่เที่ยงคืน ตี 1 ยันตี 2 และศาลวินิจฉัยแล้วว่า เป็นการไม่ระมัดระวัง และเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิผู้ต้องขัง
มันชัดเจนแล้วว่า การเอาคนเหล่านี้เข้าคุกไม่ทำให้ความคิดของพวกเค้าเปลี่ยนแปลงหรือยอมจำนน มีแต่จะสร้างความขัดแย้งรุนแรง และสร้างบาดแผลในใจให้กับทุกฝ่าย อย่างที่นายนิพิฏฐ์เขียนไว้
หลายคนอาจสะใจ น่าปล่อยพวกเค้าตายอยู่ในคุกยิ่งดี แต่ประเทศชาติได้อะไรกับการเอาอนาคตของชาติไปขังคุกไว้ ฤาจะขังแสงดาว ซึ่งยังไงก็ขังไม่ได้อีก และที่สุดก็อย่างที่นิพิฏฐ์บอก จบด้วยการพูดคุย เหมือนที่ต้องออกนโยบาย 66/23
ประเทศไทยโชคดีที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงวางแนวทางไว้เป็นหลักคิดที่มั่นคงแข็งแรง เพื่อนำพาชาติไทยไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องในทุกสถานการณ์นั่นคือ ต้องเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา
แต่ดูเหมือนผู้นำประเทศล้วนลืมแนวทางที่พระองค์ท่านได้พระราชทานไปแล้ว?!?.
----------------------
ดาวประกายพรึก