นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ร่วมเยี่ยมชมสถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Hauptbahnhof) ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เพื่อศึกษาแนวทางบริหารจัดการสถานีรถไฟโคโลญ ซึ่งเป็นสถานีที่มีความสำคัญ และมีประวัติศาสตร์ยาวนานของเยอรมนี รวมทั้งเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่มีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป นอกจากนี้ ได้เยี่ยมชมมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่มรดกโลก เพื่อศึกษาแนวทางการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานทางรางกับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของเยอรมนี 

โดยมหาวิหารโคโลญ หรือ Kölner Dom เป็นโบสถ์แบบโกธิคที่ตั้งอยู่ในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี 1996 มีระยะทางจากสถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station) ไปยังมหาวิหารโคโลญ ประมาณ 46 เมตร โดยใช้เวลาเดินทางเท้าประมาณ 1 นาที อย่างไรก็ตาม การมาศึกษาดูงานครั้งนี้ เพื่อยกระดับระบบรางของประเทศไทย โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยควบคู่ไปกับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างระบบขนส่งทางรางที่มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนสำหรับประชาชนชาวไทย 

ด้านนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสถานีอยุธยา ในโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา มีลักษณะคล้ายกับสถานีรถไฟโคโลญ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการผสมผสานระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ กับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม โดยจะนำแนวคิดที่ได้รับจากการศึกษาดูงานครั้งนี้ ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงของประเทศไทยต่อไป.