กรณีผู้ปกครองโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลบ้านใหม่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่ามี ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง คาดว่าจะอมเงินทุนการศึกษาที่จะมีการมอบให้ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน แต่ก็ได้มีการเลื่อนวันให้ผู้ปกครองมารับในวันที่ 26 กันยายน พอถึงวันที่ ผอ.คนดังกล่าวนัดผู้ปกครองไว้ให้มารับทุน ชาวบ้านก็ได้มารอ แต่ก็ไม่เห็นตัว ผอ.โรงเรียน โทรฯ ติดต่อไปก็ไม่รับสาย ไปที่บ้านก็ไม่พบ เจอแต่สามีของ ผอ. ซึ่งได้บอกว่า ผอ. ออกไปข้างนอก จึงทำให้บรรดาผู้ปกครองไม่พอใจว่านัดแล้วทำไมหายไปไหนติดต่อก็ไม่ได้ จึงได้โทรฯ มานัดผู้สื่อข่าวว่าทางผู้ปกครองที่ไม่ได้รับทุนจะเข้ามาใหม่ในวันที่ 27 กันยายน พร้อมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต 1 ในเวลา 09.00 น.

ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.ย. นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) ได้รับมอบหมายจาก ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการติดตามข้อเท็จจริงกรณีมี ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง เลื่อนการมอบทุนการศึกษา จึงได้ประสานไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัดของโรงเรียนดังกล่าว ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนโดยทันที เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนประมาณ 30 คน ได้เดินทางมารอที่โรงเรียน พร้อมด้วยทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต 1 โดย ดร.ธฌาวิณพ์ รักลีลาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต 1 ได้มอบหมายให้นายวุฒิพงษ์ ปฎิเวชวัฒนางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต 1 ได้เข้ามาพูดคุยในเรื่องนี้ หลังจากนั้น ประมาณ 09.30 น. ผอ.โรงเรียนได้เดินทางเข้ามา เพื่อพูดคุยอธิบายเรื่องราวที่นัดมอบทุนการศึกษาแล้วไม่ได้มอบตามที่ตนได้นัดกับผู้ปกครองไว้

หลังจากนั้นจึงได้เข้าห้องประชุมกันทั้งหมด โดยมี เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต 1 ผอ.โรงเรียน และผู้ปกครองของเด็กๆ ที่จะได้รับทุนการศึกษา ซึ่งทุนการศึกษาทั้งหมดรวมเป็นเงิน 36,000 บาท แบ่งเป็นทุนละ 1,000 บาท จำนวน 30 ทุน ทุนละ 1,500 บาท จำนวน 4 ทุน ใช้เวลาในการประชุมชี้แจงประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้น ผอ.ได้นำทุนการศึกษา จำนวน 36,000 บาท เพื่อมามอบให้กับบรรดาผู้ปกครองครบทุกทุน

ซึ่งผอ.โรงเรียน ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นแค่ความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่ให้ หรือนำเงินไปใช้อะไร แต่ตัวเองติดภารกิจด่วนในวันที่จะต้องมามอบทุนที่นัดไว้ เพราะว่าการมอบทุนในครั้งนี้ไม่ได้จัดเป็นพิธีอะไร แค่ให้ผู้ปกครองมารับกับมือตนแค่นั้น จึงคิดว่าล่าช้าไป 1 วัน คงไม่เป็นไร แต่ก็ได้ขอโทษขอโพยกับบรรดาผู้ปกครองไปเรียบร้อยแล้ว แล้วทางผู้ปกครองก็ไม่ติดใจอะไร พอใจที่ได้ทุนเรียบร้อยแล้ว

ส่วนทางด้านนายประวุธ โหมงอ่วม สมาชิกสภา อบต.บ้านใหม่ และเป็นกรรมการสถานศึกษา บอกว่า วันนี้ได้ข้อสรุปก็รู้สึกพึงพอใจ ที่มีการนำเงินกองทุนการศึกษาของเด็กนักเรียนที่ได้จากการไฟฟ้า โรงปุ๋ย รวมกว่าจำนวน 30 ทุน เป็นเงินประมาณ 30,000 กว่าบาท นำมามอบคืนให้ แต่ก็มีเงินของโรงเรียนบางส่วนที่หายไปเยอะประมาณ 400,000 บาท ซึ่งในวันที่ 4 ตุลาคม จะมีการนัดมาเคลียร์เรื่องเงินผ้าป่าของโรงเรียน ว่าใช้จ่ายอะไรไปบ้าง เพราะว่าตอนนี้เงินในบัญชีของโรงเรียนเท่าที่รู้ เหลืออยู่ประมาณ 300 กว่าบาท

นางเกศทิพย์ กล่าวว่า ล่าสุดวันนี้ (27 กันยายน 2567) ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 1 ได้ลงพื้นที่โรงเรียนดังกล่าว และได้พูดคุยกับผู้ปกครองนักเรียนประมาณ 30 คน ที่เดินทางมารอที่โรงเรียน จากนั้น ผอ.โรงเรียน ได้เดินทางเข้ามา เพื่อพูดคุยอธิบายเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดย ผอ.โรงเรียน ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวเกิดจากความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่ให้หรือนำเงินไปใช้อะไร เพียงแต่ตนติดภารกิจด่วนในวันที่จะต้องมามอบทุนที่นัดหมายไว้ เพราะว่าการมอบทุนในครั้งนี้ไม่ได้จัดเป็นพิธีอย่างทางการ เป็นเพียงให้ผู้ปกครองมารับกับมือตนเท่านั้น จึงคิดว่าล่าช้าไป 1 วัน คงไม่เป็นไร แต่เมื่อทราบว่าผู้ปกครองเกิดความเข้าใจผิด ตนจึงได้เข้ามาชี้แจงและขอโทษผู้ปกครองทุกคนอย่างสูง พร้อมทั้งนำเงินทุนการศึกษาทั้งหมดรวม 36,000 บาท แบ่งเป็นทุนละ 1,000 บาท จำนวน 30 ทุน ทุนละ 1,500 บาท จำนวน 4 ทุน นำมามอบให้กับผู้ปกครองนักเรียนครบถ้วนทุกทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางผู้ปกครองไม่ได้ติดใจเอาความ และพอใจที่ได้รับทุนเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดเป็นการชี้แจงเบื้องต้นของทาง ผอ.โรงเรียน ซึ่งทาง สพฐ. มองว่าเหตุดังกล่าวจำเป็นต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ถี่ถ้วน ดังนั้นจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุและต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้น หากพบว่าผอ.โรงเรียนไม่ใส่ใจในการปฏิบัติงานหรือเจตนาจนเกิดความผิดพลาด ก็จะดำเนินการทางวินัย ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยที่คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง และรองผอ.เขต ที่กำกับดูแลพื้นที่ จะลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับโรงเรียนและชุมชนอีกด้วย

“เรื่องดังกล่าว ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. มีความห่วงใยและสั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะ สพฐ. ให้ความสำคัญกับเรื่องความโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ พร้อมเน้นย้ำให้เขตพื้นที่กำชับโรงเรียนให้ดำเนินการทุกเรื่องให้ถูกต้องและสร้างความเชื่อมั่นและเป็นที่พึ่งของชุมชนในทุกโรงเรียน ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมเป็นหูเป็นตา ติดตามความเคลื่อนไหวการดำเนินงานของสถานศึกษาในทุกมิติ สพฐ. จะกำกับ ติดตามตรวจสอบ พร้อมทั้งป้องกัน เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานที่ที่เป็นที่รวมใจ วางใจของชุมชน และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชุมชนเข้มแข็งและมีความสุข” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว