นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า  ตามที่เกิดภัยพิบัติในหลายพื้นที่ ส่งผลทำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากพื้นที่ดังกล่าวประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เกษตรกรผู้ปลูกพืชที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย จะได้รับการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง จึงขอแจ้งเตือนให้เกษตรกรผู้ประสบภัยระมัดระวังมิจฉาชีพ ที่หลอกลวงให้ทำธุรกรรมเพื่อขอรับการช่วยเหลือเยียวยากรณีดังกล่าวว่าในทุกขั้นตอนที่ดำเนินการไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ หากเกษตรกรมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินการ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลในพื้นที่ หรือสำนักงานเกษตรอำเภอโดยตรงเท่านั้น

สำหรับเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช กรณีพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย เกษตรกรจะได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 เกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย และมีพื้นที่เสียหายจริงอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ โดยจะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท

สำหรับพื้นที่ประสบภัยเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลจะไปแจ้งสิทธิการช่วยเหลือ ให้บริการเกษตรกร รวมทั้งประสานการช่วยเหลือด้านต่างๆ  โดยเกษตรกรสามารถขอรับและยื่นแบบ กษ 01 ด้วยตนเองกับเจ้าหน้าที่เกษตรตำบล หรือผู้นำชุมชน หรือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ประสบภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลและคณะอนุกรรมการตรวจสอบความเสียหายระดับหมู่บ้านจะดำเนินการสำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตรร่วมกับเกษตรกร เพื่อยืนยันข้อมูลตามแบบ กษ 01 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เกษตรตำบลจะติดประกาศหรือจัดประชาคมในพื้นที่ให้เกษตรกรร่วมกันตรวจสอบและรับรองข้อมูล ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถติดตามสถานะการช่วยเหลือได้ ผ่านทางเว็บไซต์ https://disaster.doae.go.th/

กรมส่งเสริมการเกษตร ขอเน้นย้ำว่าการขอรับสิทธิการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ในทุกขั้นตอนไม่มีค่าใช้จ่าย หากเกษตรกรมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินการ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลในพื้นที่ หรือสำนักงานเกษตรอำเภอโดยตรงเท่านั้น