วันที่ 27 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้มีการจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิรับเงิน 10,000 บาท ตามโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดยมีการเริ่มทยอยโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ และบัญชีธนาคารที่แจ้งไว้ให้กับผู้มีสิทธิตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา และจะดำเนินการต่อเนื่อง ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. นี้

ที่ จ.สุรินทร์ พบว่ามีประชาชนผู้มีสิทธิได้รับเงินดังกล่าว ต่างทยอยเดินทางมายืนเข้าแถวรอกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ ทุกพื้นที่ทุกอำเภอ ตั้งแต่เช้ามืด โดยเฉพาะที่หน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาศรีณรงค์ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ พบว่ามีประชาชนไปปูเสือนั่งรอคิวตั้งแต่ตี 5 และค่อยๆ ทยอยเดินทางมาอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่เช้า ก่อนที่พนักงานธนาคารจะเปิดเวลาทำการในเวลา 08.30 น. โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการกางเต็นท์ไว้ให้ประชาชนได้นั่งคอย และเพื่อกันแดดกันฝน ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานอีกด้วย

ขณะที่ จ.นครพนม ยังคงคึกคัก พบว่าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มที่ 3 จะได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ในวันที่ 3 เช็กเวลาเงินเข้า พร้อมมีเจ้าหน้าที่แนะวิธีกดเงินสด ประชาชนกลุ่มเปราะบางคนใดที่ยังไม่ได้รับเงินหมื่นนั้น ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2567 เวลา 00.00 น. เป็นต้นไป ทุกคนจะทยอยได้รับเงินตามลำดับ โดยยึดตามเลขท้ายบัตรประชาชน (หมายเลขหลักสุดท้ายของบัตรประชาชน) ซึ่งผู้ที่จะได้รับเงินในวันที่ 3 ได้แก่ ประชาชนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4, 5, 6 และ 7

นางปาฬณี กฤติยวนิชช์ ผู้จัดการสาขาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานครพนม เปิดเผยว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ทางธนาคารฯ เริ่มจ่ายเงินสำหรับผู้ได้รับบัตรสวัสดิการ วันแรกประชาชนผู้มาใช้บริการจำนวนมาก ทั้งคนที่ยังไม่มีบัญชีพร้อมเพย์ และยังไม่มีบัญชีเงินฝาก ลูกค้าที่ยังไม่มี ATM ลูกค้าจะมาทำบัตรกดผ่านบัตร ATM ได้ กลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะถอนผ่านหน้าเคาน์เตอร์ของธนาคารฯ การใช้บริการประชาชนเยอะมาก ประมาณ 20 เท่า วันธรรมดาเป็นลูกค้าทั่วๆ ไป ประชาชนมาชำระหนี้ ใช้บริการ แต่พอได้เงินช่วยเหลือจากภาครัฐ จำนวนผู้ใช้บริการเยอะมาก เมื่อวานมีทั้งคนมีบัตร ไม่มีบัตร ATM มาใช้บริการหน้าเคาน์เตอร์ สมุดบัญชีสูญหาย ต้องไปแจ้งความสมุดหาย ฯลฯ โดยในวันเสาร์ ที่ 28 และวันอาทิตย์ ที่ 29 ทางธนาคารยังคงเปิดให้บริการ ตามเวลาทำการปกติ ของธนาคารฯ

นางคำดี อายุ 83 ปี เป็นชาวบ้านดงหมู จังหวัดนครพนม กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า เงินในบัญชีเข้าหรือไม่ บัตรประชาชนของตนลงท้ายด้วยเลข 5 ถ้าได้รับเงิน ก็จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และซ่อมแซมบ้าน ตอนนี้อาศัยอยู่กับหลาน  

นายสมชาย อายุ 38 ปี กล่าวว่า ตนเคยถูกบำบัดยาเสพติด แต่กลับตัวให้เป็นคนดีต่อสังคม ถ้าได้รับเงิน 10,000 บาท จะนำไปทำการเกษตร เช่น ซื้อปุ๋ยไปใส่นาข้าว และนำบางส่วนไปซ่อมแซมบ้านให้แม่

นางบุญเสริม กล่าวว่า ตนมาตั้งแต่ 05.00 น. ยังไม่ได้ต่อคิว ทราบว่าตนได้รับเงิน 10,000 บาท แต่คิวยาว ไม่สามารถรอได้คนเยอะ เนื่องจากต้องดูแลญาติที่พิการติดเตียง วันหลังจะมากด ATM สิ้นเดือนถึงมาเบิก เงินอยู่ในบัญชีก็อยู่เหมือนเดิม

นางแดง อายุ 65 ปี เป็นชาวนครพนม ได้รับคิวแรกในการใช้บริการ กล่าวว่า ถ้าได้รับเงิน 10,000 บาท จะเอาไปใช้หนี้ และใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ได้ทำงานนานแล้ว ที่บ้านได้รับเงิน 2 คน ซึ่งลูกสาวของตนป่วยเป็นโรคมะเร็ง ก็จะนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาล

จากการสอบถาม พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับเงิน 10,000 บาท จะนำไปใช้เครื่องอุปโภค บริโภค ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้หนี้บ้าง  บางส่วนก็จะนำไปซ่อมแซมบ้าน และซื้ออุปกรณ์การเกษตร