เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ต.จอมพฤทธิ์ แก้วเรือง สว.กก.6 บก.ป. สนธิกำลัง กก.1, 2, 3 บก.ป. เปิดปฏิบัติการ “ทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ” รวบ 12 ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังกระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ, ชลบุรี, ปราจีนบุรี, สระแก้ว และ จ.นครราชสีมา

สืบเนื่องจากปลายปี 2566 มีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าร้องทุกข์กับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) ของ บช.ก.หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของคนร้ายที่อ้างตัวเป็นตำรวจเพื่อตรวจสอบรวม 19 ครั้งเป็นเงิน 927,982 บาท จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่พบฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับคนร้าย 14 คน ก่อนเปิดปฏิบัติการไล่ล่าบุกรวบตัวไว้ได้ 12 คนดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นพนักงานกับบัญชีม้า พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือและบัญชีธนาคารมีเงินหมุนเวียนกว่าร้อยล้านที่ใช้และได้มาจากการหลอกลวงเหยื่อดังกล่าวไว้เป็นของกลาง

สอบสวนผู้ต้องหาส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพว่า ที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ตึกแห่งหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้าน มีคนไทยและชาวต่างชาติทำงานประมาณ 50 คน โดยชายชาวจีนเป็นหัวหน้าคอยควบคุมสั่งการให้ใช้อุบายหลอกลวงเหยื่อ เช่น โทรฯ ขู่เหยื่อให้กลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน, หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ, หลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์, หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล, หลอกลวงทางแอปพลิเคชันหาคู่

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และอั้งยี่” ก่อนนำตัวส่ง พงส.บก.ป.ดำเนินคดีและขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป